post

คิงส์ คัพที่บุรีรัมย์ บทพิสูจน์ระดับฟุตบอลทีมชาติไทย-เวียดนาม

การแข่งขันฟุตบอลคิงส์ คัพ ประจำปี 2019 ที่โยกไปแข่งขันยังบุรีรัมย์ สร้างความฮือฮาให้แฟนบอลไทยและอาเซียนอย่างมาก เมื่อปรากฏรายชื่อทีมเข้าร่วมการแข่งขันพลิกโผไปจากเดิมพอสมควร โดยกลายเป็นอินเดีย กือราเซาและเวียดนามที่จะเข้าร่วมแข่งขัน ก่อนการจับสลากประกบคู่จะส่งไทยไปพบเวียดนาม เกิดเป็นโอกาสที่จะวัดกันไปเลยในเวลานี้ว่าเวียดนามหรือไทยที่ดีกว่ากัน

รายชื่อทีมเข้าร่วมฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 ในทีแรกปรากฏรายชื่อคู่แข่งอย่างอินเดียและจีน ซึ่งล้วนเป็นคู่แข่งที่ทีมชาติไทยได้เจอมาในการแข่งขันเอเชี่ยน คัพครั้งล่าสุด ไทยแพ้อินเดีย 1-4 พร้อมการปลดกลางศึกสำหรับหัวหน้าผู้ฝึกสอนในตอนนั้นที่ชื่อมิโลวาน ราเยวัช ทีมไทยดันโค้ชโต่ย ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ผู้ช่วยโค้ชขึ้นคนนำทัพโดยมีโชคทวี พรหมรัตน์เป็นมือขวา ทีมสามารถผ่านรอบแบ่งกลุ่มมาได้ขณะที่อินเดียตกรอบ ในรอบสองไทยพบจีนก่อนจะแพ้ไปแบบสู้ได้ 2-1 หลังจบรายการนั้นแฟนบอลไทยยังปักใจเชื่อว่าทีมชาติไทยดีกว่าทีมชาติอินเดีย และไม่น่าจะด้อยกว่าทีมชาติจีน

เมื่อจบรายการเอเชี่ยน คัพ ทีมชาติไทยชุดใหญ่ได้รับเชิญเข้าร่วมการแข่งขันไชน่า คัพ ที่ประเทศจีน โดยจีนเลือกใช้ไทยเป็นคู่แข่งแบบหมายมั่นปั้นมือว่าจะผ่านเข้าไปชิงแชมป์กับอุรุกวัย ทีมอันดับท็อปเท็นของโลกที่ได้รับเชิญเข้าร่วมแข่ง แต่ดันกลายเป็นว่าทีมชาติไทยได้ชนาธิป สรงกระสินธุ์ส่องประตูโทนให้ทีมไทยหักหน้าเจ้าภาพเข้าไปพบอุรุกวัยแทน ทีมชาติจีนที่มีข่าวว่าเตรียมจะเซย์เยสมาคิงส์ คัพก็ถูกตีตกไปทันที

ฝั่งเวียดนามเองทีแรกมีข่าวว่าไม่อยากมาร่วมรายการคิงส์ คัพเพราะพวกเขามองว่าทีมชาติของตัวเองนั้นเหนือกว่าทีมชาติไทยไปแล้ว เพราะได้ทั้งแชมป์อาเซียน คัพ, และรายการเอเชี่ยน คัพก็ไปไกลกว่าเพราะผ่านเข้าไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ขณะที่ไทยจอดแค่รอบ 16 ทีม อันดับโลกก็เหนือกว่าทีมชาติไทย ไม่นับรวมทีมรุ่นอายุต่ำกว่าชุดใหญ่ที่เวียดนามทำผลงานได้ดีกว่าไทยแทบจะทุกรายการ แต่สุดท้ายปาร์ก ฮัง ซอ โค้ชชาวเกาหลีใต้ที่ปลุกปั้นทีมดาวแดงให้มีผลงานสุดหรูก็ขอให้สมาคมฟุตบอลเวียดนามตอบรับเข้าร่วมรายการแข่งที่เมืองไทย เพราะเขามั่นใจว่านาทีนี้เวียดนามไม่ด้อยกว่าไทยแน่ๆ พร้อมด้วยชื่อสุดท้ายที่ได้รับเทียบเชิญเข้าร่วมการแข่งขันคือทีมชาติกือราเซา ทีมชื่อไม่คุ้นหูแต่มีอันดับโลกสูงที่สุดในบรรดาทีมทั้งหมด

สำหรับแฟนบอลทั้งไทยและเวียดนามที่อยากให้ทีมชาติชุดใหญ่ได้เจอกันสักทีก็สมใจหลังโลกออนไลน์ตั้งป้อมใส่กันมานาน ผลการประกบคู่ออกมาเป็นไทยพบเวียดนามและอินเดียพบกือราเซา

รายการคิงส์ คัพครั้งนี้ ทีมชาติไทยจะต้องลงสนามด้วยเกมนัดสำคัญที่แฟนบอลตั้งหน้าตั้งตารอคอย การเจอกันในเกมทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกนับตั้งแต่รายการคัดเลือกฟุตบอลโลก 2018 ในปี 2015 ที่ตอนนั้นไทยชนะทั้งไปและกลับ ขณะที่ผลงานไทยดูสาละวันเตี้ยลง เวียดนามกลับสวนทางเป็นขาขึ้นแบบติดลิฟต์ ทำให้ต่อมความมั่นใจของแฟนบอลไทยถูกสะกิดด้วยคำถามว่า เราโดนเวียดนามแซงไปแล้วหรือเปล่า?

เกมไทย-เวียดนามในคิงส์ คัพครั้งนี้ มันจึงเป็นเกมที่มากกว่าแค่หนึ่งในเกมแพ้ชนะกันในหนึ่งการแข่งขันเท่านั้น แต่คุณค่าของมันคือการประกาศจุดยืนของระดับทีมชาติที่มีต่อกัน ไทยยังเป็นเจ้าอาเซียนเหมือนที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยเชื่อมั่น หรือว่าเวียดนามนั้นก้าวผ่านทีมชาติไทยไปเรียบร้อยแล้ว