post

กรีซมันน์กับถ้วยบิ๊กเอียร์ที่รอคอยในสีเสื้อเลือดหมู-น้ำเงิน

อ็องตวน กรีซมันน์ จอมทัพแห่งทีมชาติฝรั่งเศสผู้พา “เลส์ เบลอส์” ฝรั่งเศส คว้าแชมป์โลกครั้งล่าสุดมาแล้ว ตั้งเป้าคว้าแชมเปียนส์ลีกมาครองให้จงได้ในฤดูกาลนี้ หลังจากอกหักกับทีม “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริดมาแล้วในการเข้าชิงถึง 2 ครั้ง 2 ครา ก่อนหน้านี้ หลังเปลี่ยนมาสวมเสื้อเบอร์ 17 ในสี “เลือดหมู-น้ำเงิน” บาร์เซโลน่าด้วยค่าตัวกว่า 120 ล้านยูโรแทนในฤดูกาลล่าสุด

การย้ายทีมในช่วงเวลาสำคัญ

กรีซมันน์ในวัย 28 ปีกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอาชีพการเป็นนักเตะของเขา แม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้ให้แก่ “คริสเตียโน่ โรนัลโด้” ของเรอัล มาดริดอย่างเจ็บปวดในทั้ง 2 ครั้งที่ทีม “ตราหมี” ของเขาได้เข้าชิงถ้วยใบใหญ่ที่สุดของยุโรปกับเรอัล มาดริด การตัดสินใจย้ายมาร่วมทัพบาร์เซโลน่าต้นสังกัดใหม่ของเขา ที่เป็นคู่ปรับอันแท้จริงของอดีตทีมคู่แข่งร่วมเมืองอย่างเรอัล มาดริดจึงน่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้แก้ตัวในสิ่งที่เคยผิดพลาดไป รวมถึงการได้ร่วมเล่นเคียงข้างนักเตะแห่งศตวรรษอย่างลิโอเนล เมสซี่ ที่เป็นการท้าทายความสามารถของเขาเป็นอย่างมาก แม้ว่าเมสซี่จะเคยได้แชมป์บิ๊กเอียร์นี้มาแล้ว 2 ครั้ง แต่การพลาดหวังในหลายปีที่ติดต่อกันที่บาร์ซ่าต้องตกรอบอย่างเจ็บช้ำ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทั้งเมสซี่และบาร์เซโลน่าจะทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขามีเพื่อคว้าแชมป์รายการนี้ให้ได้ โดยมีกรีซมันน์เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของพวกเขา

ความคาดหวังจากแฟนบอลและเพื่อนร่วมทีม

ค่าตัวอันมหาศาลที่บาร์เซโลน่ายอมจ่ายเพื่อแลกกรีซมันน์มาร่วมทีม จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าหน้าที่ของเขาวิธีการอุดช่องว่างขนาดใหญ่ที่เนย์มาร์ได้ฝากเอาไว้ในตอนที่ย้ายออกไปจากถิ่นคัมป์ นู ซึ่งก่อนหน้านี้ “ฟิลลิปเป้ คูตินโญ่” เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติบราซิลก็ยังทำไว้ไม่สำเร็จ และได้ย้ายสวนทางกับเขาไปยังบาเยิร์น มิวนิคโดยการปล่อยยืมพร้อมออปชั่นซื้อขาดทั้ง ๆ ที่เพิ่งมาปีกว่า ๆ ด้วยค่าตัวถึง 146 ล้านยูโรก็ตาม

รวมไปถึงการสร้างความมั่นใจให้กลับเหล่านักพนันที่เป็นแฟนตัวยงของทีมได้ จากการฝากความหวังไว้ที่ตัวเขาในการมาครั้งนี้ ทั้งความสำเร็จต่อทีม และชัยชนะจากการวางเดิมพันของเหล่าแฟนบอลเอง

บทสรุปแห่งความสำเร็จ

ตำแหน่งแชมป์ลา ลีการวมถึงโคปา เดลเรย์ ที่บาร์เซโลน่าคว้ามาได้รวมกันหลายครั้งในสิบปีที่ผ่านมา รวมถึงแชมป์ถ้วยสำคัญอย่างยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกคือทุกรางวัลที่กรีซมันน์ยังไม่เคยได้รับ “บาร์เซโลน่า” ของเขาในตอนนี้ยังเป็นทีมที่เต็มไปด้วยนักเตะชั้นยอดพร้อมที่จะลุ้นคว้าทุก ๆ แชมป์เหมือนทุก ๆ ปีที่ผ่านมา แต่ทีมกำลังประสบปัญหาเรื่องการปรับตัวของนักเตะเก่าและใหม่ในทีมหลายคน รวมถึงผู้จัดการทีมอย่าง “เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้” ที่ได้รับคำวิจารณ์ในด้านลบจากแฟนบอลบาร์ซ่าจำนวนมาก ทั้งเรื่องสไตล์การเล่นหรือผลการแข่งขันที่ผ่านมา ซึ่งกรีซมันน์จะต้องผนึกกำลังกับเมสซี่และทุกคนในทีมเพื่อฝ่าฟันมันไปให้ได้