post

“งูใหญ่” อินเตอร์ มิลานพร้อมล่าแชมป์บิ๊กเอียร์สมัยที่สี่ไปกับคอนเต้

“งูใหญ่” อินเตอร์ มิลานหนึ่งในสโมสรยักษ์ใหญ่จากอิตาลี อดีตแชมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 3 สมัย (ยูโรเปี้ยนคัพเดิม) ภายใต้การคุมทีมของกุนซือคนใหม่ “อันเจโล่ คอนเต้” พร้อมแล้วกับการกลับมาไล่ล่าความสำเร็จในเส้นทางยุโรปอย่างเต็มตัวอีกครั้ง หลังต้องตกรอบเร็วเกินคาดในฤดูกาลก่อนด้วยน้ำมือของทีมรองแชมป์อย่างท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ไปอย่างน่าเสียดาย

เสริมทีมคับคั่ง ตามใบสั่งของกุนซือ

“ซูหนิง” กลุ่มทุนจากจีนเจ้าของสโมสรอินเตอร์ มิลาน ทุ่มเงินจำนวนมหาศาลและเสริมทัพได้นักเตะตามที่คอนเต้ต้องการแทบทั้งหมด โดยเฉพาะการคว้าตัว “โรเมลู ลูกากู” กองหน้าทีมชาติเบลเยียมจาก “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ด้วยค่าตัวสูงที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรถึง 75 ล้านปอนด์, อเล็กซิส ซานเชสปีกทีมชาติชิลีค่าเหนื่อยแพงจากสโมสรเดียวกัน รวมถึงดาวรุ่งทีมชาติอิตาลีอย่างสเตฟาโน่ เซนซี่, นิโคโล่ บาเรลล่า และดีเอโก้ โกดิน กัปตันทีมชาติอุรุกวัย ผนวกกับขุมกำลังเดิมทำให้ทีมงูใหญ่ในปัจจุบันพร้อมแล้วที่จะต่อกรได้ทุกทีมที่พวกเขาเจอและทุกแชมป์ในรายการที่พวกเขาต้องการ

อยู่กลุ่มแห่งความตาย

“งูใหญ่” อินเตอร์ มิลานโชคไม่ดีนักเมื่อถูกจับมาอยู่ในกลุ่มแห่งความตายอีกครั้ง หลังจากฤดูกาลที่แล้วทีมต้องอยู่ร่วมกลุ่มเดียวกับบาร์เซโลน่า, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และพีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น ก่อนต้องตกรอบไปอย่างน่าเสียดายด้วยกฎเฮด-ทู-เฮด (ประตูได้เสียเท่ากับสเปอร์ส) ในปีนี้ทีมงูใหญ่ได้ร่วมกลุ่มกับบาร์เซโลน่าหนึ่งในทีมเต็งอีกครั้ง รวมถึงโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์และสลาเวีย ปราก แชมป์จากเช็ก แต่ด้วยขุมกำลังที่เพียบพร้อมกว่าเดิมและฟอร์มการเล่นที่กำลังร้อนแรง โดยทีมงูใหญ่สามารถเก็บชัยชนะได้ 2 นัดรวดตั้งแต่เปิดฤดูกาลกัลป์โซ่ เซเรีย อา อินเตอร์ มิลานจึงน่าจะได้ผ่านเข้ารอบไปได้หากยังลงเล่นด้วยฟอร์มอันแข็งแกร่งเช่นนี้และมีโชคมากกว่าฤดูกาลก่อน

อินเตอร์ มิลาน อีกหนึ่งทีมที่น่าเสี่ยงเดิมพัน

อันที่จริงแล้วจะว่าเสี่ยงก็คงไม่ใช่นัก เมื่อทีมระดับนี้ที่มีทั้งเงินและดาวเตะชั้นนำ การวิเคราะห์คาดเดาผลการแข่งขันในแต่ละนัด สำหรับเซียนพนันบอลด้วยแล้วคงทำได้ไม่ยากนัก เรียกง่าย ๆ ว่า คบงูใหญ่ไม่มีผิดหวังแน่นอน ดังนั้นทีมนี้จึงเป็นอีกทีมที่นักพนันควรจะใส่เงินลงไปเช่นกัน

แชมเปียนส์ลีกกับคอนเต้

“อันเจโล่ คอนเต้” ได้รับการยอมรับกว่าเป็นกุนซือจอมแท็คติกคนนึงในวงการลูกหนังยุคปัจจุบัน เขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในทุกทีมที่เขาคุม เขาประสบความสำเร็จมากมายทั้งยูเวนตุส, ทีมชาติอิตาลี และเชลซี แต่ในแชมเปียนส์ลีกแล้ว คอนเต้ยังไม่เคยคว้าแชมป์ได้เลยในฐานะกุนซือ สำหรับทีมที่เพียบพร้อมไปด้วยประวัติศาสตร์และเงินทองจากกลุ่มทุนซูหนิงอย่างอินเตอร์มิลานในปัจจุบัน ที่พร้อมให้การสนับสนุนคอนเต้ทุกอย่าง นับเป็นความท้าทายอย่างยิ่งยวดของกุนซืออย่างคอนเต้แน่นอน และอาจจะไม่น่าแปลกใจเลยถ้าอินเตอร์ได้เป็นหนึ่งในทีมที่จะได้ลงชิงชัยใน “อตาเติร์ก สเตเดี้ยม” สนามในกรุงอิสตัลบุล ประเทศตุรกีที่จะเป็นสนามชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในปีนี้

 

post

เชลซีสิงโตน้ำเงิน (รอ)คำราม

หลังจากกุนซือชาวอิตาเลียนอันโตนิโอ คอนเต้พาเชลซีทำสถิติคว้าชัยชนะ 12 นัดรวดพร้อมเข้าป้ายคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อ 2 ฤดูกาลก่อน “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ได้เปลี่ยนแปลงทีมไปอย่างมากมายในทุกปี ทั้งกุนซือและนักเตะภายในทีม โดยเฉพาะฤดูกาลล่าสุดทีมได้ขายเอแด็ง อาซาร์ไปด้วยค่าตัวสถิติสโมสร 130 ล้านปอนด์ให้แก่เรอัล มาดริดในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล และยังเสียเมาริซิโอ ซาร์รี่กุนซือผู้พาทีมคว้าแชมป์ยูโรป้าคัพเมื่อฤดูกาลก่อนให้แก่ยูเวนตุส วันนี้ทีมต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับกุนซือป้ายแดงที่เป็นตำนานของทีมอย่าง “แฟรงค์ แลมพาร์ด”

เสียอาซาร์ในเวลาที่ติดโทษแบนซื้อ-ขายนักเตะ

การติดโทษแบนซื้อ-ขายนักเตะของเชลซีทำให้ในฤดูกาลนี้พวกเขาไม่สามารถเซ็นนักเตะใหม่ได้เลย แต่ยังถือว่าเป็นโชคดีที่เชลซีมีดาวรุ่งฝีเท้าเยี่ยมอยู่มากมายที่พร้อมขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่อย่างถาวร ทั้งคัลลั่ม ฮัดสัน โอดอยส์, เมสัน เมาท์ และแทมมี่ อับราฮัม จึงนับได้ว่ายังเป็นข่าวดีอยู่บ้าง แม้จะต้องเสียเอแด็ง อาซาร์และดาบิด ลุยซ์ 2 นักเตะหลักในรอบหลายปีของทีมออกไปในช่วงเวลานี้ก็ตาม

เชลซีของแฟรงค์ แลมพาร์ด

การเลือกแฟรงค์ แลมพาร์ดอดีตมิดฟิลด์ผู้เป็นเจ้าของสถิติทำประตูสูงสุดตลอดกาลของเชลซีมาเป็นผู้จัดการทีมนั้น สื่อต่าง ๆ ในอังกฤษและแฟนบอลจำนวนไม่น้อยออกอาการเป็นห่วงว่าอดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษผู้นี้จะเอาชื่อมาทิ้งไว้เสียเปล่า ๆ แลมพาร์ดมีประสบการณ์การคุมทีมน้อยมาก โดยมีเพียงพาทีมดาร์บี้ เคาน์ตี้ทีมระดับแชมเปี้ยนชิพเข้าชิงเพลย์ออฟก่อนพ่ายแพ้ให้แก่แอสตัน วิลล่าอดเลื่อนชั้นขึ้นมาพรีเมียร์ลีกในท้ายที่สุด อย่างไรก็ดีในช่วงเวลา เชลซีที่ติดโทษแบนการซื้อ-ขายนักเตะและเสียนักเตะคนสำคัญของทีมออกไป คงเป็นการยากที่กุนซือมีชื่อเสียงคนอื่น ๆ จะเสี่ยงมาคุมทีมในเวลานี้

เป้าหมายของทีมและการคาดหวังของแฟนบอลเชลซีในฤดูกาลนี้

การเปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีกโดยการบุกไปแพ้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ดถึง 4-0 มันคือฝันร้าย   ดี ๆ นี่เอง และแม้ทีมของแลมพาร์ดจะเล่นได้อย่างดีทีเดียวในแมทช์ต่อมาก็ไม่วายต้องมาพ่ายนัดชิงแชมป์ซุปเปอร์คัพให้แก่     ลิเวอร์พูลด้วยการดวลจุดโทษอีก ทั้ง ๆ ที่ในเวลา120 นาทีพวกเขาควรจะเป็นผู้ชนะเสียมากกว่าด้วยซ้ำ ปัจจุบันพวกเขาเล่นพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่ไปแล้ว 4 นัด มี 5 แต้มอยู่ในอันดับที่ 7 ของตารางห่างจากจ่าฝูงลิเวอร์พูล 5 คะแนน หากทีมของแลมพาร์ดยังคงเล่นฟุตบอลได้อย่างกล้าหาญดังเช่นปัจจุบัน การลุ้นโควต้าแชมเปียนส์ลีกที่หวังไว้คงไม่ไกลเกินเอื้อม ดังเช่นฤดูกาลก่อนที่เล่นได้อย่างกระท่อนกระแท่นในบางช่วงเวลา แต่สุดท้ายพวกเขาก็คว้าอันดับ 3 ในลีกและคว้าแชมป์ยูโรป้าคัพได้สำเร็จ

 

post

เรือใบจับติ้วเบาหวิวพร้อมแล่นฉิวซิวชปล.ครั้งแรก

“เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โคตรทีมมิลเลี่ยนแนร์แห่งเวทีพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ถูกจับสลากมาอยู่กลุ่มซีที่เบากว่าใครในทีมพรีเมียร์ลีกด้วยกัน ร่วมกับชัคตาร์ โดเน็ตส์(ยูเครน), ไดนาโม ซาเกร็บ(โครเอเชีย) และอตาลันต้า(อิตาลี) ที่เพิ่งได้ลงทำศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ทำให้โอกาสผ่านเข้ารอบต่อไปของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่เหมา 3 แชมป์ในซีซั่นที่ผ่านมาจากอังกฤษดูสดใสเหลือเกินในฐานะแชมป์กลุ่ม

ทีมที่สมบูรณ์เต็มไปด้วยความสมดุล

แมนเชสเตอร์ ซิตี้เสริมทัพไม่มาก แต่ได้นักเตะที่ลงตัวและทดแทนกันได้ในตำแหน่งที่ต้องการ โดยในปีนี้ทีมได้  “โรดรี้” มิดฟิลด์ทีมชาติสเปนจากแอตเลติโกมาดริดเข้ามา เพื่อเป็นตัวแทนแฟร์นันดินโญ่ที่เริ่มอายุมากขึ้น และโรดรี้ก็ไม่ปล่อยให้แฟนบอลเรือใบสีฟ้าต้องรอนาน เขาปรับตัวเข้ากับทีมได้อย่างรวดเร็วและโชว์ฟอร์มได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากโรดรี้แล้ว แมนฯซิตี้ได้คว้าชูเอา คันเซโล่แบ็คขวาทีมชาติโปรตุเกสซึ่งมีปีที่ยอดเยี่ยมในฤดูกาลที่ผ่านมากับยูเวนตุส แต่โชคร้ายที่เขาไม่ใช่นักเตะที่เมาริซิโอ ซาร์รี่โค้ชคนใหม่ของยูเวนตุสต้องการ นั่นกลายเป็นโชคดีของแมนซิตี้ที่ได้เขามาร่วมทีมเพื่อโรเตชั่นในตำแหน่งแบ็คขวาของไคล์ วอคเกอร์ที่เป็นกำลังหลักของทีมมาตลอดจะได้พักบ้าง ทำให้แมนฯซิตี้ในชุดปัจจุบันลงตัวและมีนักเตะทดแทนกันได้อย่างกลมกลืนแทบทุกตำแหน่ง

ฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรง

ฤดูกาลที่แล้วแมนฯ ซิตี้สร้างประวัติศาสตร์คว้าทุกแชมป์ในการลงเล่นบนเกาะอังกฤษได้เป็นทีมแรก และยังคง โชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงมาตลอดตั้งแต่เปิดฤดูกาลเป็นต้นมา แม้จะสะดุดเสมอสเปอร์ส 2-2 ในบ้านหลังถูก VAR ปฏิเสธการได้ประตูชัย (อีกแล้ว) แต่ฟอร์มการเล่นของทีมยังร้อนแรง เกมรุกที่หลากหลายลงตัว ยากแก่การต้านทาน ไม่ว่า “เป๊บ กวาร์ดิโอล่า” จะจัดใครลงเล่น นับว่าเป็นยอดทีมแห่งยุคอย่างแท้จริง แมนฯ ซิตี้ได้ถูกจัดเป็นเต็งหนึ่งในแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลนี้จากทุกบริษัทรับพนันถูกกฎหมาย แม้ว่าทีมยังไม่เคยแม้แต่จะเข้าชิงถ้วยใบนี้เลยก็ตาม

เต็งหนึ่งแชมเปียนส์ลีก

ด้วยขุมกำลังที่เพียบพร้อมไปทุกตำแหน่ง ฟอร์มการเล่นที่กำลังเข้าฝัก หรือมันสมองของกุนซือที่ว่ากันว่าเก่งที่สุดในโลกในปัจจุบันอย่างเป๊ป กวาร์ดิโอล่า หากทีมยังคงรักษาฟอร์มการเล่นได้เช่นนี้ และไม่โชคร้ายเกินไปนักเหมือนเช่นฤดูกาลก่อนที่ VAR พรากโอกาสเข้ารอบไปจากพวกเขาไปช่วงทดเวลาเจ็บในสนาม “เอติฮัต สเตเดี้ยม” ของพวกเขาเองอย่างบอบช้ำ เชื่อว่าถ้วยบิ๊กเอียร์ที่แฟนเรือใบสีฟ้าปรารถนาคงไม่หลุดมือไปจากพวกเขาแน่นอน

 

post

บาเยิร์น มิวนิคกับการทุ่มเงินครั้งประวัติศาสตร์เพื่อแชมเปียนส์ลีก?

บาเยิร์น มิวนิคสโมสรอันดับหนึ่งแห่งบุนเดสลีกา ลีกสูงสุดของเยอรมัน ผู้เป็นเจ้าของสถิติสูงสุดในการคว้าแชมป์ลีกได้ได้ถึง 29 ครั้ง และคว้าแชมป์ติดต่อกันได้ถึง 7 ครั้งใน 7 ปีล่าสุดอีกด้วย ทุบกระปุกครั้งประวัติศาสตร์ของสโมสรแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน ทุ่มซื้อสตาร์ดังแถวหน้าของยุโรปเพื่อลุ้นคว้าแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลนี้ให้จงได้ หลังจากคว้าแชมป์บิ๊กเอียร์ได้ครั้งสุดท้ายในปี 2012-13

การทุ่มเงินซื้อนักเตะครั้งประวัติศาสตร์

บาเยิร์น มิวนิค คือ สโมสรฟุตบอลที่สามารถคว้าแชมป์บุนเดสลีกาเยอรมันและแชมป์เด เอฟเบโพคาลได้มากที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งนั่นดูจะไม่ใช่เป้าหมายสำคัญที่สุดลำดับแรก ๆ ของทีมใหญ่แห่งแคว้นบาบาเรียทางตอนใต้ของเยอรมันเสียแล้ว หลังสโมสรเดินหน้าทุ่มเงินดึงนักเตะชั้นนำอย่างต่อเนื่องโดยคว้าตัว “ลูอิส แฟร์น็องเดซ” กองหลังและแบ็คขวาทีมชาติฝรั่งเศส จากสโมสรแอตเลติโก มาดริด ด้วยค่าตัวแพงที่สุดเป็นสถิติสโมสรถึง 80 ล้านยูโร รวมถึงเบนจาแม็ง ปาวาร์ แบ็คซ้ายทีมชาติฝรั่งเศสเช่นกัน จากสตุ๊ตกาทท์ และทุ่มเงินมากกว่า 100 ล้านยูโร เพื่อขอซื้อเลอรอยด์ ซาเน่ ปีกทีมชาติเยอรมันจากแมนฯซิตี้ ซึ่งน่าเสียดายที่อดีตนักเตะของชาลเก้ผู้นี้ได้รับบาดเจ็บหนักไปเสียก่อน แต่ที่ฮือฮากว่าทุกคนที่กล่าวมาคือการดึงฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เพลย์เมกเกอร์ค่าตัวแพงจากบาร์เซโลน่า ด้วยการยืมตัวพร้อมออฟชั่นซื้อขาดเป็นเงินกว่า 120 ล้านยูโร ทำให้บาเยิร์น มิวนิคกลับมาเป็นทีมที่ได้รับการจับตามองในเวทียุโรปอีกครั้ง

คำถามเกี่ยวกับนิโก้ โควัช

นิโก้ โควัช คือ กุนซือหนุ่มไฟแรง ที่มีข่าวจะถูกปลดจากทีมแทบจะทุกสัปดาห์ตั้งแต่เข้ามาคุมทีมใหญ่อย่างบาเยิร์นเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ผลงานของโควัชในฤดูกาลที่ผ่านมาเกือบจะเอาตัวไม่รอด กว่าจะพาบาเยิร์น มิวนิคคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้แบบหวุดหวิด หลังจากทีมดอร์ทมุนด์คู่แข่งของเขาออกอาการแผ่วปลาย ก่อนจะคว้าแชมป์เดเอฟเบโพคาลได้ด้วยชัยชนะเหนือไลป์ซิก ที่มีศักยภาพทีมเป็นรองบาเยิร์นอยู่หลายช่วงตัวทีเดียว แต่นั้นอาจจะยังไม่เพียงพอเพราะบาเยิร์นต้องแพ้ต่อลิเวอร์พูลในบ้าน 0-2 ตกรอบแชมเปียนส์ลีกไปอย่างน่าเสียดาย แฟนบอลจึงยังตั้งคำถามถึงฝีมือในการทำทีมของโค้ชหนุ่มชาวโครเอเชียคนนี้จนถึงปัจจุบัน

แชมเปียนส์ลีกเป้าหมายแท้จริงที่เก็บอยู่ในใจ

ความสำเร็จในฟุตบอลลีกและฟุตบอลถ้วยของเยอรมัน ดูจะไม่มีความจำเป็นเลยที่สโมสรจะต้องทุ่มเงินมหาศาลเพื่อดึงนักเตะซุปเปอร์สตาร์แถวหน้าของยุโรป มาเพื่อรักษาความสำเร็จเดิม ๆ ของสโมสรเอาไว้ เพราะด้วยทรัพยากรนักเตะที่มีอยู่ก็ยังเป็นต่อทีมคู่แข่งอยู่บานเบอะ ถึงแม้อูลี่ เฮอเนสและและคาร์ลไฮน์ รุมเมนิเก้ สองผู้บริหารคนสำคัญของสโมสรจะพูดถึงเป้าหมายในยุโรปโดยตรง แต่เชื่อได้เลยว่าบาเยิร์น มิวนิคไม่ต้องการที่จะหยุดสถิติการคว้าแชมป์บิ๊กเอียร์อยู่เพียงแค่ 5 สมัยอย่างแน่นอน

 

post

UEFA Champions League 2019 Group G กลุ่มนี้คือสวรรค์ของนักลงทุน

จับสลากแบ่งสายกันไปแล้วสำหรับฟุตบอลรายการใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป หรือ UEFA Champions League 2019 ปีนี้ไม่มีกรุ๊ป ออฟ เดธ หรือกลุ่มแห่งความตายให้แฟน ๆ ได้ร้องซี้ดซ้าดเพราะทีมใหญ่ ๆ ไม่กระจุกตัวอยู่ในสายเดียวกัน แต่กลับกันมีทีมที่ภาษาฟุตบอลเรียกว่าทีมไม้ประดับอันแปลได้ว่าทีมที่เข้าแข่งขันในรายการให้พอเป็นสีสันไม่ค่อยแข็งแกร่งเท่าไรอยู่ร่วมสายกันเสียอย่างนั้น แน่นอนนักลงทุนถึงกับลูบปากเพราะนี่คือโอกาสดีที่จะล้มโต๊ะจริง ๆ แล้ว และกลุ่มที่ว่าก็คือกรุ๊ป G ที่ประกอบไปด้วยทีมต่าง ๆ เหล่านี้

โอลิมปิค ลียง ทีมจากลีกเอิงสร้างความประทับใจในรายการนี้เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา พวกเขาสามารถผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกได้ทั้งยังสามารถเสมอกับโคตรทีมแกร่งอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในรอบ 16 ทีมได้จนเป็ป กวาดิโอล่าต้องออกปากชมนักเตะหลาย ๆ คนของโอแอลว่าเป็นผู้เล่นที่มีอนาคต ซึ่งด้วยบุญเก่าที่ทำไว้ดีในกลุ่มนี้ทีมดังจากฝรั่งเศสจึงถูกวางให้เป็นทีมเต็งแชมป์ของสายเหนือกว่าทีมอื่น ๆ อยู่เล็กน้อย

เบนฟิก้า ทีมชั้นนำจากลีกโปรตุกีสไม่มีสตาร์ดังเหมือนทีมอื่น ๆ แถมยังเสียนักเตะพรสวรรค์สูงอย่างชูเอา เฟลิกซ์ไปให้ทีมตราหมี แอตเลติโก้ มาดริด แม้จะเป็นรองทีมอื่นในกลุ่มพอประมาณ แต่ด้วยความที่ทีมเหยี่ยวแดงเป็นฟุตบอลที่เล่นกันอย่างมีวินัย ทีมเวิร์คยอดเยี่ยม ทำให้พวกเขาพอจะมีโอกาสเก็บแต้มในบ้านได้บ้างแต่สำหรับการออกไปเยือนต้องบอกว่าโอกาสมีแต้มอยู่ที่ 50/50 เท่านั้น

แอร์เบ ไลป์ซิก ทีมเต็งที่ VWIN จัดให้อยุ่ในอันดับสองของกลุ่มมีดีเรื่องเกมรุกและเกมรับอยู่พอตัวแต่ยังอ่อนประสบการณ์ในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยใหญ่ของยุโรปรวมทั้งเรื่องการรักษาฟอร์มให้สม่ำเสมอ สำหรับฟอร์มในบ้านพอเชื่อขนมกินได้และนักวิเคราะห์หลายคนก็ให้ความเห็นว่าโอกาสในการได้แชมป์กลุ่มค่อนข้างสูสีกับโอลิมปิค ลียงอยู่พอสมควร

เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก อดีตทีมเงินถุงเงินถังจากลีกรัสเซียถูกวางให้เป็นทีมม้ามืดในกลุ่มนี้เพราะเป็นทีมที่มีนักเตะชื่อดังอยู่หลายคนโดยเฉพาะศูนย์หน้าตัวอันตรายทีมชาติอิหร่านอย่างซาร์ดา อัซมูน แต่ปัญหาของพวกเขาก็พอมีอยู่เพราะบรรดาแนวรับหลายคนของทีมอยู่ในช่วงโรยรา ซึ่งถ้าผ่านการกรำศึกหนักติดต่อกันทั้งในลีกและฟุตบอลยุโรปก็ยังมีความเป็นไปได้อยู่พอ ๆ กันทั้งรอดเข้ารอบหรือร่วงไปเล่นยูโรป้าลีก

นี่คือการแนะนำจุดแข็งและจุดอ่อนของทีมร่วมกลุ่ม G ในรายการ UEFA Champions League 2019 เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นประกอบการตัดสินใจ อย่างไรก็ดีในกลุ่มนี้ก็ยังถือว่าเป็นกลุ่มที่น่าลงทุนวางเดิมพันที่สุดแล้วเพราะอัตราต่อรองในแต่ละเกมบวกลบไม่น่าจะเกิน 0.0-0.5 เนื่องจากแต่ละทีมศักดิ์ศรีไม่ห่างกันมากนักและถ้าหากนักลงทุนหาข้อมูลแน่น ๆ วิเคราะห์ดี ๆ ก็คาดเดาผลการแข่งขันได้ง่ายกว่ากลุ่มอื่น ๆ ค่อนข้างมากเลยทีเดียว

post

ซิเมโอเน่กับภารกิจนำถ้วยบิ๊กเอียร์มาประดับสู่อ้อมกอดทีมตราหมี

แอตเลติโก มาดริด คืออีกหนึ่ง สโมสรใหญ่ในกรุงมาดริด เมืองหลวงแห่งประเทศสเปน พวกเขาสวมเสื้อสีขาวแดง กางเกงน้ำเงินและถุงเท้าแดงอันเป็นเอกลักษณ์ แอตเลติโก มาดริดนั้นเป็นทีมขวัญใจชนชั้นแรงงานของเมืองมาดริดซึ่งแม้ความสำเร็จและถ้วยรางวัลต่าง ๆ ของทีมจะห่างไกลจากทีมราชันแห่งยุโรปอย่างเรอัล มาดริด แต่สโมสรแห่งที่ไม่เคยห่างหายจากนักเตะชั้นยอด เป็นอีกหนึ่งทีมในดวงใจของนักพนันหลาย ๆ คน แถมทีมนี้ได้สถาปนาตัวขึ้นเป็นทีมชั้นนำของลา ลีกาที่พร้อมจะแย่งทุกแชมป์จากเรอัล มาดริดและบาร์เซโลน่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

การมาของชูเอา เฟลิกซ์

จากมาร์เซโล่ ซาลาส, เซร์คิโอ(กุน) อเกวโร่, ราดาเมล ฟัลเกา, อองตวน กรีซมันน์ มาถึงชูเอา เฟลิกซ์ แอตเลติโกมาดริดเป็นทีมที่ไม่เคยขาดดาวยิงระดับพระกาฬเลยสักครั้ง ทีมมักจะดึงนักเตะมาในช่วงที่เป็นดาวรุ่งและมาปั้นจนเป็นดาวยิงระดับโลกกันทุกนามที่เอ่ยมา สำหรับเจ้าหนู “ชูเอา เฟลิกซ์” กองหน้าวัย 19 ปีจากสโมสรเบนฟิก้าก็เช่นกัน เฟลิกซ์ย้ายมาแทนกรีซมันน์ด้วยค่าตัวใกล้เคียงกัน (ประมาณ 120 ล้านยูโร) ท่ามกลางความเคลือบแคลงสงสัยในฝีเท้าของเฟลิกซ์ที่เพิ่งติดทีมชาติโปรตุเกสชุดใหญ่ไปเพียงนัดเดียว แต่ด้วยฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมในช่วงปรีซีซั่นและช่วงเปิดฤดูกาล เฟลิกซ์ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมตราหมีเก็บชัยชนะได้ถึง 3 นัดนำเป็นจ่าฝูงเดี่ยวทีมเดียวในลาลีกาในขณะนี้

ทีมตราหมีของซิเมโอเน่

“อิล โชโล่” ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ชคือยอดโค้ชคนหนึ่งที่ได้รับการยอมรับทั้งในระดับสโมสรและระดับนานาชาติ ทีมของซิเมโอเน่เป็นทีมที่มีวินัยสูง เต็มไปด้วยพละกำลัง เป็นทีมที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากมาเจอ ซึ่งซิเมโอเน่พาทีมเข้าชิงแชมเปี้ยนลีกมาแล้ว 2 ครั้งแต่เขาพ่ายแพ้ให้กับเรอัลมาดริดอย่างน่าเสียดายที่สุด โดยในครั้งแรก ทีมของเขาถูกตีเสมอด้วยลูกโหม่งของ “เซร์คิโอรามอส” จากการเสียลูกเตะมุม ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ และเป็น “แกเร็ธ เบล” มายิงเพิ่มก่อนพาทีมราชันชนะไปอย่างเด็ดขาด 4 -1 ก่อนจะพ่ายจุดโทษให้กับ ทีมราชันชุดขาวเช่นเดิมใน 2 ฤดูกาลต่อมา แม้ว่าจะผ่านประสบการณ์ที่เลวร้าย แต่ซิเมโอเน่เลือกที่จะต่อสัญญากับทีมมากกว่าจะย้ายไปคุมทีมใหญ่อย่างอาร์เจนติน่าหรืออินเตอร์ มิลานเพื่อต้องการที่จะประสบความสำเร็จในถ้วยใบกับทีมตราหมีของเขานี้ให้จงได้

Third time lucky

ก่อนหน้านี้เจอร์เก้น คล็อปป์เคยพาทีมเข้าชิงยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2 ครั้งกับดอร์ทมุนด์และลิเวอร์พูล แต่พ่ายแพ้ให้แก่บาเยิร์น มิวนิคและเรอัล มาดริดทั้ง 2 ครั้ง ก่อนมาประสบความสำเร็จในครั้งที่ 3 กับลิเวอร์พูลในฤดูกาลล่าสุด สำหรับซิเมโอเน่ก็เช่นกัน เขาคาดหวังว่าในครั้งที่ 3 เทพีแห่งโชคจะเข้าข้างพวกเขาเสียที เพราะทุกอย่างที่ทีมของเขามีในตอนนี้พร้อมแล้วที่จะนำถ้วยบิ๊กเอียร์มาประดับสนามว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่ของ แอตเลติโก มาดริดแล้ว หากใครที่อยากลองเดิมพันทีมแชมป์ประจำฤดูกาลนี้ เราแนะนำว่านี่คืออีกหนึ่งทีมที่ควรลิสท์เข้าไปด้วย

 

post

เอฟเวอร์ตันเดิมพันครั้งสำคัญกับมาร์โก ซิลวา

เอฟเวอร์ตันคืออีกหนึ่งสโมสรในเมืองลิเวอร์พูล และเป็นสโมสรที่เก่าแก่ลำดับต้น ๆ ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ โดยมีอายุกว่า 141 ปีแล้วในปัจจุบัน เป็นทีมที่มีฐานแฟนบอลเหนียวแน่นและประสบความสำเร็จมากที่สุดทีมหนึ่งในเกาะอังกฤษโดยคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 (พรีเมียร์ลีกในปัจจุบัน) ได้ถึง 9 สมัย, เอฟเอคัพอีก 5 ครั้ง รวมถึงแชมป์คัพ วินเนอร์คัพอีก 1 ครั้ง    มีนักเตะระดับตำนานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแกรี่ลินิเกอร์, พอล แกสคอยน์ ฯลฯ แต่หลังจากที่ห่างหายความสำเร็จไปเป็นเวลานาน แฟนบอลทอฟฟี่สีน้ำเงินดูจะกลับมามีความหวังอีกครั้งหลังจาก “ฟาฮาด โมชิรี” นักธุรกิจมหาเศรษฐีผู้รักฟุตบอลชาวอิหร่านเข้ามาเป็นเจ้าของสโมสร

การเสริมทัพยอดเยี่ยม

“ฟาร์ฮาด โมชิริ” เจ้าของสโมสรคนปัจจุบันมีทรัพย์สินกว่า 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ เขาทำให้สโมสรที่เคยเป็นหนี้สินแห่งนี้ กลายเป็นสโมสรที่ร่ำรวยติดอันดับในยุโรปทันที แต่นั้นคงไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่เขาทำเพื่อเอฟเวอร์ตันอย่างจริงใจ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงสนามกูดิสัน ปาร์คให้ทันสมัย และรองรับแฟนบอลได้มากขึ้น การจ้างทีมงานบริหารที่มีความเป็นมืออาชีพสูง และการซื้อนักเตะเข้ามาร่วมทีมในฤดูกาลนี้ที่ได้รับการชื่นชมจากสื่อและแฟนบอลเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการซื้ออังเดร โกเมสจากบาร์เซโลน่ามาร่วมทัพอย่างถาวรด้วยราคาเพียง 22 ล้านปอนด์, ฟาเบียน เดลฟ์ มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษจากแมนฯซิตี้, ฌิบริล ซิดิเบ้ แบ็คฝีเท้าดีจากโมนาโก, มอยเซ่ คีน กองหน้าดาวรุ่งจากยูเวนตุสและอเล็กซ์ อิโวบี้ปีกดาวรุ่งจากอาร์เซนอล ซึ่งแม้ในบางรายจะไม่ได้เปิดเผยค่าตัวแต่คาดว่าค่าตัวรวมกันมากกว่า 100 ล้านปอนด์เลยทีเดียว

ฤดูกาลที่ 2 กับมาร์โก ซิลวา

มาร์โก ซิลวาวัย 42 ปีเป็นโค้ชชาวโปรตุเกส สร้างชื่อกับการคุมทีมฮัลล์ ซิตี้ก่อนย้ายมาคุมวัตฟอร์ดและเอฟเวอร์ตันในปัจจุบัน เป็นผู้จัดการทีมดาวรุ่งที่น่าจับตามองคนหนึ่งในวงการลูกหนังอังกฤษ แต่การคุมทีมเอฟเวอร์ตันย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อเป้าหมายสูงสุดของทีมคือการไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ถึงเวลาที่มาร์โก ซิลวาจะต้องแสดงฝีมือให้ทุกคนเห็นได้เห็นว่าตัวเขามีดีแค่ไหน หลังจากได้คุมเอฟเวอร์ตันที่มีองค์ประกอบดีกว่าทุกทีมที่เขาเคยคุมมา หรือไม่เวลาของเขาก็อาจจะเหลือน้อยลงเรื่อย ๆ ปัจจุบันเอฟเวอร์ตันอยู่ในอันดับที่ 6 ร่วมกับ อาร์เซนอล โดยมีแต้มห่างจากจ่าฝูงลิเวอร์พูลอยู่ 5 คะแนน พวกเขาเก็บชัยชนะได้ 2 นัดเสมอ 1 นัดและพ่ายแพ้ต่อแอสตัน วิลล่าที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาอย่างน่าเสียดาย หลังจบฤดูกาลเราคงได้รู้ว่าการทุ่มเงินเสริมนักเตะอย่างมหาศาลของโมชิริจะให้ผลตอบแทนอะไรกับพวกเขาบ้าง และปีหน้าเอฟเวอร์ตันยังคงมีผู้จัดการทีมที่ชื่อ “มาร์โก ซิลวา” อยู่อีกหรือไม่?

 

post

ไทยลีก 2019 การกระจายกำลังสู่ทั่วประเทศของทั้ง 16 ทีม

แม้จะเป็นการตัดสินใจแบบปุบปับให้วงการฟุตบอลไทยตั้งตัวแทบไม่ทัน แต่ที่สุดแล้วการปรับลดจำนวนทีมบนเวทีลีกสูงสุดของไทยจาก 18 ให้เหลือ 16 ทีมในฤดูกาล 2019 ก็เกิดขึ้นจนได้ แต่นี่อาจจะเป็นข้อดีสำหรับฟุตบอลไทยเมื่อการแข่งขันได้กระจายตัวไปทั่วประเทศ

สามในห้าทีมจากพื้นที่กรุงเทพฯทั้งโปลิศ เทโร, บางกอกกล๊าสและแอร์ฟอร์ช ยูไนเต็ดกลายเป็นทีมตกชั้นร่วมกับอุบล ยูไนเต็ดและราชนาวี โดยมีพีทีที ระยอง, ตราดและเชียงใหม่เลื่อนชั้นสวนทางขึ้นมา บวกกับการเปลี่ยนมือผู้บริหารทีมพัทยา ยูไนเต็ดที่ถูกนำเข้ามาเป็นสโมสรประจำจังหวัดสมุทรปราการในชื่อใหม่ เมื่อกางแผนที่ประเทศไทยออกดู นี่คือฟุตบอลไทยลีกที่ 16 ทีมมีถิ่นที่ตั้งสนามอยู่ 16 จังหวัดโดยไม่ซ้ำกัน

แชมป์เก่าอย่างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และนครราชสีมา เอฟซีกลายเป็นตัวแทนจากภาคอีสาน

ตราด, ระยองและชลบุรีต่างมีทีมตัวแทนจังหวัดตัวเองเป็น 3 สโมสรจากชายทะเลภาคตะวันออก

เชียงราย ยูไนเต็ดได้เชียงใหม่ เอฟซีมาเป็นเพื่อนร่วมลีกที่ทำให้เกิดดาร์บี้ล้านนาครั้งแรก

ราชบุรี เอฟซี, ประจวบ เอฟซี คือสองตัวแทนจากภาคตะวันตก ขณะที่สุพรรณบุรี เอฟซี, สุโขทัย เอฟซีและชัยนาท ฮอร์นบิลเป็นทีมตัวแทนจากภาคกลาง

ส่วนกรุงเทพฯและปริมณฑลได้ทีมที่แตกต่างพื้นที่กัน การท่าเรือคือกรุงเทพฯชั้นใน เมืองทองตัวแทนจากนนทบุรี แบ็งค็อก ยูไนเต็ดจากปทุมธานีและสมุทรปราการ ซิตี้จากสมุทรปราการ

นี่คือฟุตบอลไทยลีกที่มีการกระจายตัวแบบที่แฟนบอลไทยอยากเห็นมาตลอด ฟุตบอลที่ไม่กระจุกอยู่แต่ในกรุงเทพฯและภาคกลาง ฟุตบอลที่ไม่ทีมจังหวัด ไม่ใช่ทีมองค์กรแบบที่ฟุตบอลลีกไทยเป็นมา

วงการฟุตบอลอาชีพไทยนั้นถูกเอาไปเปรียบเทียบกับวงการฟุตบอลที่พัฒนาแล้วของประเทศในยุโรปอย่างอังกฤษหรือเยอรมันอยู่บ่อยๆ และก็ถูกเปรียบเทียบกับวงการฟุตบอลเอเชียอย่างเจลีกว่าทำไมลีกฟุตบอลไทยไม่แข็งแกร่งแบบพวกเขา ทำไมฟุตบอลไทยมันถึงกระจุกอยู่แต่ในวงแคบๆ ตอนนี้สิ่งที่เป็นรากฐานของฟุตบอลลีกอาชีพในแง่ที่ว่าทีมท้องถิ่นหรือทีมจังหวัดเบียดเหล่าทีมองค์กรหรือหน่วยงานกำลังทำหน้าที่ของมัน

เหลือบมองลงไปบนเวทีระดับรองของลีกอาชีพไทย ในศึกไทยลีก 2 ที่ปีนี้มี 18 ทีมร่วมทำการแข่งขัน จำนวนทีมตัวแทนจังหวัด 10 จาก 18 ทีมกระจายไปทั้งภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคเหนือและภาคอีสาน หลายทีมก็เพิ่งเลื่อนชั้นชึ้นมาจากเวทีระดับล่างและหลายทีมมีอนาคตที่จะพัฒนาขึ้นไปในระดับไทยลีกได้ ตอนนี้ฟุตบอลอาชีพไทยคือการเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านจากตัวแทนองค์กรสู่ทีมจังหวัดที่เป็นตัวแทนท้องถิ่นจริงๆ มันเหมือนกับที่ลีกอาชีพประเทศที่พัฒานาจนยั่งยืนแล้วเป็นกัน นั่นคือทุกอย่างอยู่ได้ด้วยความเป็นท้องถิ่นนิยม ก่อนที่จะข้ามพ้นไปสู่ระดับประเทศหรือระดับสากลแบบที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดหรือเมืองทอง ยูไนเต็ดทำได้ นั่นคือการเป็นที่ชื่นชอบแบบไม่อิงความเป็นจังหวัดอีกต่อไป

16 ทีมฟุตบอลอาชีพของไทยลีกย่อมมีทีมขึ้นลงไปตามกฎเกณฑ์ในแต่ละปี ทีมจังหวัดเดียวกันอาจจะได้กลับมาอยู่บนเวทีไทยลีกอีกครั้ง หรืออาจจะเป็นจังหวัดใหม่ที่ขึ้นมาแทนที่จังหวัดเก่าๆ แต่นั่นคือครรลองที่ควรจะเป็น ฟุตบอลที่มีแรงผลักดันด้วยความเป็นจังหวัดนิยมและท้องถิ่นนิยม ฟุตบอลที่เป็นลมหายใจของผู้คน

 

post

เรื่องน่ารู้ใต้สนามศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก กับสถิติน่าวิเคราะห์เรื่องลูกจุดโทษ

ศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลล่าสุดจบลงไปแล้วอย่างสวยงามแบบถูกใจ “เด็กหงส์” เพราะเป็นการปิดฉากโดยลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ไปได้อย่างเหนือชั้น 2 ประตูต่อ 0 ทำให้ทีมหงส์แดงคว้าถ้วยแชมป์ยุโรปไปครองได้เป็นสมัยที่ 6 นับความความน่าภาคภูมิใจในความพยายามของลิเวอร์พูล ถึงเกมฤดูกาลนี้จะจบลงไปเรียบร้อย แต่นั่นก็เป็นสัญญาณบ่งบอกว่ายูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลใหม่กำลังจะมาเยือนในไม่ช้า ซึ่งสำหรับคนที่หลงใหลในวงการลูกหนังและชอบในการเล่นพนันฟุตบอลก็ควรจะเตรียมข้อมูลความรู้ของตนเองไว้ให้แน่นปึก เพื่อที่จะเอามาวิเคราะห์เกมได้แม่นยำ สถิติหนึ่งที่น่าสนใจในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกก็คือ การ “ยิงจุดโทษ” มีอะไรน่าสนใจเชิญติดตามกันได้

ทีมที่ได้และเสียจุดโทษเยอะที่สุด

จริง ๆ แล้ว “ลูกโทษ” จะนับเป็นโอกาสสูงสุดในการทำประตูหรือจุดชี้เป็นชี้ตายในเกมฟุตบอลก็ว่าได้ นี่คือ การดวลกันตัวต่อตัวของนักเตะฝีเท้าคมกับผู้รักษาประตูมือเหนียว สถิติการได้และเสียลูกโทษจึงนับว่ามีผลต่อการแข่งขันอย่างมาก แฟน ๆ ฟุตบอลที่นอกจากจะเป็นผลชมแล้วยังมีการวางเดิมพันไว้กับเว็บไซต์รับพนันฟุตบอลบางแห่ง เช่น เว็บรับพนันกีฬายอดฮิตอย่าง VWIN จึงควรจะรู้สถิติตรงนี้เอาไว้เพื่อจะได้นำมาเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์เกมฤดูกาลถัดไป มาดูสถิติทีมที่ได้และเสียจุดโทษเยอะที่สุดกันดีกว่า

  • ทีมที่ได้จุดโทษเยอะสุด – ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 1992 จนถึงฤดูกาลล่าสุดศึกยูฟ่าฯ มีการให้ยิงจุดโทษเกิดขึ้นมากกว่า 631 ครั้ง ซึ่งทีมที่ท่านเปาเข้าข้างให้ได้ลูกโทษเยอะสุดมีอยู่ 2 ทีม คือ เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า ไม่น่าเชื่อว่าสถิติจะเท่ากันด้วยคือ ได้ จุดโทษถึง 42 ลูก และไม่ต้องสงสัยว่าทำไม 2 ทีมนี้ได้จุดโทษบ่อยเพราะอย่างที่ทราบกัน ทั้ง 2 ทีมนี้ได้รวมนักเตะฝีเท้าเยี่ยมเอาไว้มากมาย เฉลี่ยแล้วเรียกได้ว่าเล่น 6 เกมทั้งสองทีมนี้จะได้ ลูกโทษ 1 ลูก
  • ทีมที่เสียจุดโทษเยอะสุด – ตำแหน่งนี้ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ก็คว้าไปครองอีกได้จุดโทษก็เยอะแถมเสียก็เยอะด้วย แต่ยังมีอีกทีมที่พอ ๆ กันก็คือ อาร์เซน่อล ทั้งสองทีมเสียไปเยอะถึง 23 ลูกเลยทีเดียว

นักเตะที่ยิงลูกโทษได้เยอะและพลาดเยอะ

  • คริสเตียโน่ โรนัลโด้เป็นผู้เล่นที่ยิงได้เยอะสุด 18 ครั้งยิงเข้าไปถึง 15 ประตู ตามมาด้วยเทพอย่างลิโอเนล เมสซี่ยิง 14 ครั้ง เข้าถึง 11 ลูก
  • เอแด็น อาซาร์ ได้ตำแหน่งผู้เล่นที่ยิงลูกโทษพลาดเยอะสุด กับสถิติได้โอกาสยิง 7 ครั้ง แต่ยิงเข้าไปแค่ 4 ลูก

นี่คือเรื่องน่ารู้ใต้สนามของศึกฟุตบอลถ้วยยุโรปสุดยิ่งใหญ่ แฟน ๆ ฟุตบอลที่ชอบพนันก็ลองเก็บไว้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์เกมในฤดูกาลถัดไปได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณวิเคราะห์ก่อนเดิมพันได้แม่นยำมากขึ้น

post

ฟุตบอลสู่โลกกว้าง ทิศทางที่สดใสบอลไทยในยุคสมยศ

การเข้ามานั่งเก้าอี้ประมุขวงการฟุตบอลไทยของพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วงอาจจะเป็นที่กังขาในช่วงเวลาแรกๆ เพราะเอาแค่เงื่อนไขเรื่องความรู้ความเข้าใจในฟุตบอลของนายกฯ คนใหม่รายนี้ก็มีน้อยนิดแล้ว การจะมาดูแลองค์กรใหญ่ที่เป็นที่จับตามองจากทุกฝ่าย องค์กรที่มีอะไรต้องทำมากมาย หลายคนปรามาสว่าเขาจะเอาไม่อยู่

หลังจากได้ทำงานมาระยะหนึ่ง ประมุขฟุตบอลไทยก็ได้รู้ได้เห็นอะไรมากมาย แผลเก่าที่เกิดขึ้นจากการบริหารงานในยุคก่อนที่เขาจะเข้ามารับผิดชอบงานนี้ มีสิ่งที่ต้องตามล้างตามเช็ด พล.ต.อ.สมยศหรือที่แฟนบอลไทยเรียกกันว่าลุงสมยศไม่ได้เริ่มต้นงานจากศูนย์ แต่เป็นความยุ่งยากอย่างที่สุดในการเริ่มต้นจากฟุตบอลไทยที่ติดลบ

ข้อดีหนึ่งที่ลุงสมยศของแฟนบอลมีคือเขายอมรับตรงๆ ว่าไม่มีประสบการณ์เรื่องนี้ ดังนั้นเขาจะให้ความสำคัญในการฟังความเห็นของบรรดาผู้รู้ทั้งหลาย และจะใช้อำนาจหน้าที่ที่มีในการสนับสนุนเหล่าผู้รู้ให้สามารถพัฒนาและปรับปรุงวงการฟุตบอลไทยให้ดีขึ้น หนึ่งในนั้นคือการพาทีมชาติไทยออกไปเผชิญโลกกว้าง

ในยุคหนึ่งการจะได้ออกไปเล่นนอกประเทศของทีมชาติไทยถือว่ามีโอกาสน้อยจริงๆ หากไม่ใช่การไปร่วมรายการที่จำเป็นอย่างเช่นรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกหรือฟุตบอลชิงแชมป์ทวีป ก็จะเป็นรายการอาเซี่ยน คัพกับซีเกมส์เท่านั้น โอกาสเจอกับทีมชาติระดับที่แข็งแกร่งก็นานที ส่วนใหญ่ก็มาแบบไม่เต็มที่ ทีมชาติไทยได้สู้กับทีมที่ไม่เอาจริงเอาจังแบบไม่แพ้ขาดก็เกิดความเข้าใจผิดไปเองว่าไทยก็มีฝีมือไม่แพ้ใครเขา แต่ทุกครั้งที่ออกไปเล่นนอกประเทศ เจอกับคู่แข่งระดับสูงกว่าก็แพ้แบบไม่เป็นท่ากลับมาร่ำไป

วงการฟุตบอลไทยนั้นพัฒนาอย่างผิดๆ มาตลอด จนกระทั่งสมาคมฟุตบอลชุดนี้ได้สร้างแนวทางวัดระดับตัวเองขึ้นมา การเจอทีมที่เก่งกว่า การออกไปเล่นเกมเยือนเพื่อเผชิญบรรยากาศที่แตกต่างไป มันจะกลายเป็นเครื่องพัฒนานักฟุตบอลทีมชาติไทยให้ดีขึ้น สามารถสู้กับระดับทวีปหรือระดับโลกได้ในวันใดวันหนึ่งข้างหน้า

เมื่อมีมุมมองเช่นนี้ สมาคมฟุตบอลก็รับลูกที่จะเปิดโอกาสให้นักเตะไทยได้เจอประสบการณ์ที่จะช่วยพัฒนาฝีเท้าและการเล่นให้ดีกว่าเดิม สมาคมไฟเขียวให้ทีมชาติไทยทั้งชายและหญิง ทั้งชุดใหญ่และชุดอายุต่างๆ ได้ออกเดินทางไปสู่สังเวียนแข้งบนแผ่นดินอื่น ทีมหญิงชุดใหญ่ไปร่วมศึกในยุโรป เดินทางไปเช็คระดับฝีเท้าตัวเองที่ออสเตรเลียและอเมริกา ทีมชายชุดใหญ่วางโปรแกรมอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่าอย่างเคร่งครัด กลั่นกรองเฉพาะทีมที่แข่งด้วยแล้วได้ประโยชน์สูงสุด นักเตะชายรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปีได้ไปเก็บประสบการณ์ถึงประเทศสเปน นักเตะทีมหญิงอายุไม่เกิน 16 ปีได้ออกไปร่วมรายการในประเทศจีน และชุดอื่นๆ ต่างก็มีโปรแกรมวัดฝีเท้าอย่างต่อเนื่อง เป็นยุคสมัยที่แฟนบอลไทยได้เห็นโปรแกรมแข่งทีมชาติไทยทุกรุ่นเรียงกันเป็นตับ ไม่มีช่วงเวลาไหนมาก่อนที่จะได้พบเห็นอะไรแบบนี้ ถือเป็นการก้าวบันไดที่สูงขึ้นของฟุตบอลไทย หลังจากได้แต่แหงนมองแล้วฝันว่าอยากอยู่จุดที่สูงกว่านี้มาตลอด

ผลลัพธ์ของการแข่งขันตลอดช่วงที่ผ่านมาถือเป็นคนละเรื่องกับการบริหารจัดการ ตอนนี้ทีมชาติไทยพร้อมออกไปลุยโลกทุกโอกาสที่มีและเป็นประโยชน์ แฟนบอลไทยได้เห็นทีมชาติไทยชุดใหญ่ชุดเล็กตกปากรับคำไปร่วมรายการที่จัดขึ้นในต่างประเทศ มันเป็นสิ่งที่ต้องลงทุน แต่นั่นไม่ใช่งานที่ทีมชาติต้องสนใจ พวกเขามีหน้าที่เพียงแค่ออกไปแล้วทำผลงานให้ดี โชว์ให้เห็นการพัฒนาของทีม ส่วนเรื่องอื่นๆ สมาคมจะสนับสนุนเต็มที่ โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นเรื่องหลังบ้านของวงการฟุตบอลไทย หลายเรื่องที่เคยวางรูปแบบผิดก็ถูกปรับแก้ให้ถูกต้อง

นี่คืออนาคตของฟุตบอลไทยที่มีการบริหารจัดการภายใต้การเอาใจใส่ของคนไม่รู้เรื่องบอลที่ชื่อสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง มันคือฟุตบอลไทยที่มีแนวโน้มสดใสมากจริงๆ