post

อาแจ็กซ์จะกลับมาฟอร์มเทพได้อีกมั้ย?

สโมสรอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ก่อตั้งเมื่อ 18 มีนาคม 1900 พวกเขาคือหนึ่งในสโมสรที่ประสบความสำเร็จสูงที่สุดในเอดิวิชี่ ลีกฟุตบอลสูงสุดของประเทศเนเธอร์แลนด์หรือฮอลแลนด์ พวกเขาเป็นเจ้าของสนามโยฮัน ครัฟฟ์อารีน่าซึ่งเปลี่ยนจากชื่อเดิมคือ “เดเมียร์” เพื่อเป็นเกียรติแก่อดีตตำนานนักเตะอาแจ็กซ์และทีมชาติฮอลแลนด์ผู้ล่วงลับไปแล้ว สามารถจุผู้ชมได้ 55,000 คน อาแจ็กซ์คว้าแชมป์เอดิวิชี่ลีกสูงสุดฮอลแลนด์ได้ถึง 34 สมัย แชมป์เคเอ็นเวบีคัพหรือฟุตบอลถ้วยของฮอลแลนด์อีก 19 สมัย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของฮอลแลนด์ทั้ง 2 รายการ และแชมป์ถ้วยใหญ่สุดของยุโรปคือแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพหรือยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในชื่อปัจจุบันถึง 4 สมัย

อาแจ็กซ์กับผลงานในยุโรป

อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมหรือฉายาอย่างเป็นทางการ คือลูกของพระเจ้า หรือลัคกี้อาแจ็กซ์ จากผลงานในเวทียุโรปของสโมสรในหลายฤดูกาลหลังดูเหมือนเขาจะไม่มีโชคเอาเสียเลยปี 2017 พวกเขาได้เข้าชิงฟุตบอลยูโรป้าคัพพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทีมที่เพียบพร้อมกว่า พวกเขาภายใต้การนำทีมของโชเซ่มูรินโญ่กุนซือชื่อดังแห่งยุคและผลการแข่งขันก็ไม่ได้ผิดจากที่คาดหมายแต่อย่างใด พวกเขาต้องพ่ายแพ้ต่อทีมปีศาจแดงจากอังกฤษไป 2-0 ตามที่นักพนันได้ลงเดิมพันเอาไว้อย่างมั่นใจ อย่างไรก็ดีในฤดูกาลที่ผ่านมาพวกเขากลายเป็นทีมม้ามืดอย่างแท้จริง เมื่อสร้างเซอร์ไพรส์โดยการล้มทีมเต็งแชมป์อย่างเรอัล มาดริด และยูเวนตุสซึ่งมีคริสเตียโน่ โรนัลโด้อยู่ในทีมด้วย เรียกได้ว่าบอลรองในครั้งนี้กลับทำให้นักพนันร่ำรวยกันในเฉพาะบางกลุ่มที่อยากลองของ แต่ในรอบรองชนะเลิศพวกเขาต้องตกรอบด้วยน้ำมือของท็อตแน่ม ฮ็อทเสปอร์จากแฮตทริกของลูคัสปีกของทีมตราไก่ตกรอบไปอย่างชอกช้ำ

เริ่มต้นฤดูกาลใหม่โดยไม่มีแฟรงกี้ เดอยองและมัทไธจ์ เดอ ลิกส์

การที่ต้องเสีย 2 นักเตะที่ดีที่สุดของทีมอย่างแฟรงกี้ เดอยองให้บาร์เซโลนาและมัทไธจ์ เดอ ลิกส์กองหลังกัปตันทีมให้กับยูเวนตุส ถึงแม้ทีมจะได้เงินมากว่า 150 ล้านยูโร แต่ทว่าลีกฮอลแลนด์ของพวกเขาไม่ใช่แรงดึงดูดซุปเปอร์สตาร์นักเตะรายใดและนี่ก็ไม่ใช่แนวทางการสร้างทีมเพื่อสร้างทีมของพวกเขาแม้ทีมจะตกรอบรองชนะเลิศในฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปียนลีก แต่พวกเขาก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เมื่อสามารถพลิกแซงพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่นกลับมาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดฮอลแลนด์ได้อีกครั้ง และรวมถึงในศึกเคเอ็นวีบีคัพฟุตบอลถ้วยของฮอลแลนด์ อาแจ็กซ์ก็ถล่มวิลเล็มII ไปเละเทะถึง 4-0 ในรอบชิง

เป้าหมายและความคาดหวังในฤดูกาลนี้

อาแจ็กซ์ถือว่าโชคดีที่สามารถรักษาเอริค เทน ฮากกุนซือคนเก่งของพวกเขาเอาไว้ได้และในฤดูกาลที่ยากลำบากนี้คงเป็นการพิสูจน์ฝีมือของเทน ฮาก ให้แฟนบอลได้เห็นอีกครั้งว่าเขาคือของจริงหรือของปลอม อย่างไรก็ดีทีมม้ามืดอย่างอาแจ็กซ์ มักจะไม่ค่อยเป็นที่ถูกจับตามอง และในฤดูกาลนี้คงไม่มีใครคาดหวังว่าพวกเขาจะไปได้ไกลในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกเหมือนฤดูกาลก่อน ลำพังแค่เอาตัวรอดจากรอบแบ่งกลุ่มเพื่อเข้ารอบ 2 ก็ไม่ง่ายเสียแล้ว เมื่ออาแจ็กซ์ต้องอยู่ในกลุ่มเดียวกับ2 ทีมใหญ่อย่างเชลซี, บาเลนเซียและลีลล์ทีมแกร่งจากฝรั่งเศส แต่เมื่อผ่านการแข่งขันไป 2 นัด อาแจ็กซ์สามารถยึดจ่าฝูงของกลุ่มเอาไว้ได้ด้วยการเก็บชัยชนะ 2 นัดรวดเหนือลีลล์และบาเลนเซียด้วยสกอร์ 3-0 เท่ากันทั้ง 2 นัด โดยพวกเขายิงได้ถึง 6 ประตูและไม่เสียเลยแม้แต่ประตูเดียว ทีมลูกเทพจากเมืองอัมสเตอร์ดัมอาจจะเป็นม้ามืดในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้อีกครั้ง

อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ทีมพลังหนุ่มที่โดดเด่นในเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก

สโมสรจากเดนมาร์กเป็นแค่ทีมจากลีกระดับรองของยุโรปมาหลายปีต่อเนื่อง พวกเขามักสูญเสียผู้เล่นชั้นดีของทีมให้สโมสรใหญ่ๆ ในฤดูกาลถัดมาอยู่เป็นประจำ แต่มันไม่เกิดขึ้นกับอาแจ็กซ์ในฤดูกาลนี้

ปีที่แล้วอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมสามารถทะลุเข้าถึงนัดชิงชนะเลิศรายการยูโรป้า ลีกได้อย่างเซอร์ไพรซ์ พวกเขามีดาวรุ่งชั้นเยี่ยมมากมายสมกับที่เป็นสโมสรที่โดดเด่นในการปั้นนักเตะดาวรุ่ง จบฤดูกาลที่แล้วพวกเขารักษาขุมกำลังไว้ได้เกือบทั้งหมด และทุกคนก็กลายมาเป็นนักเตะที่ถูกกล่าวถึงมากในการแข่งขันแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้

มัทไธจ์ส เด ลิกต์ กองหลังวัย 19 ปี, ดอนนี่ ฟาน เด เบค กองกลางวัย 20 ปี, แฟร้งกี้ เดอ ย็อง กองกลางวัย 21 ปี, นัซเซอร์ มาซราอุย วิงแบ็ควัย 21 ปี รวมถึงเดวิด เนเรส ปีกขวาวัย 21 ปี ซึ่งทุกคนเป็นกำลังสำคัญในฤดูกาลที่ผ่านมา แถมแต่ละรายก็ถูกเชื่อมโยงข่าวย้ายตัวกับสโมสรระดับชั้นนำ จากทั้งสเปน อังกฤษและอิตาลี จึงนับว่าเป็นความเยี่ยมยอดที่อาแจ็กซ์สามารถรั้งพวกเขาไว้ได้ และมันทำให้ทีมสามารถลงต่อกรกับคู่แข่งในแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่ม ที่มีเพื่อนร่วมกลุ่มอย่างบาเยิร์นได้อย่างน่าประทับใจ

อาแจ็กซ์ทะลุเข้ารอบน็อคเอ้าท์ด้วยการไม่แพ้บาเยิร์น มิวนิคทั้งสองนัด มันคือก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของบรรดาแข้งวัยรุ่น ไม่เพียงแต่จะทำให้พวกเขาได้ลงเล่นในเกมระดับสูงต่อไปอีก หลังจากที่ปกติมักตกรอบแบ่งกลุ่มไปก่อน แต่มันทำให้ทุกคนมีโอกาสแสดงศักยภาพที่เปลี่ยนเป็นค่าตัวที่สูงขึ้น และเงินจะย้อนกลับไปที่สโมสรมากกว่าที่จะได้รับหากปล่อยนักเตะไปตั้งแต่ซัมเมอร์ที่ผ่านมา

คู่แข่งของอาแจ็กซ์ในรอบ 16 ทีมคือทีมเจ้าของแชมป์มากที่สุดของรายการยุโรปอย่างรีล มาดริด ในสภาพที่ราชัน ชุดขาวดูจะไม่แข็งแกร่งเหมือนที่พวกเขาเคยเป็น อาแจ็กซ์สามารถคาดหวังได้ว่าพวกเขาจะทำผลงานที่ดีได้เหมือนที่สร้างความลำบากให้กับแชมป์บุนเดสลีก้าทั้งในนัดเยือนที่เสมอ 1-1 และนัดเหย้าที่เสมอกัน 3-3

แต่ถ้าถามว่าจะผ่านรีล มาดริดได้ไหม คำตอบคง “เป็นไปได้ยาก”

แข้งดาวรุ่งของอาแจ็กซ์ได้แสดงให้เห็นความสามารถเกินระดับอายุของตัวพวกเขา ส่วนหนึ่งมันเกิดจากการที่ได้เล่นกันอย่างต่อเนื่องในเกมระดับสูงต่อจากฤดูกาลที่แล้ว กระดูกของพวกเขาแข็งขึ้นและนั่นทำให้พวกเขากล้าที่จะสู้อย่างไม่เกรงกลัวศักดิ์ศรีคู่แข่งที่เหนือกว่า

แต่อาแจ็กซ์อาจจะต้องทำใจว่าหลังจากจบฤดูกาลนี้ หรืออาจจะตั้งแต่ตลาดรอบสองนี้เลยก็ได้ที่พวกเขาจะต้องเสียนักเตะกำลังสำคัญออกไปจากทีม เพราะนอกจากสโมสรต้องทำธุรกิจฟุตบอลแล้ว นักเตะเองก็อยากได้เวทีที่ใหญ่ขึ้นในการสั่งสมชื่อเสียง ซึ่งนั่นก็เป็นแนวทางที่อาแจ็กซ์ยอมรับมาตั้งแต่แรกว่า พวกเขาคงไม่แคล้วที่จะต้องเดินหน้าในธุรกิจลูกหนังแบบนี้

หมดจากดาวรุ่งชุดนี้ อาแจ็กซ์ก็คงสร้างนักเตะดาวรุ่งเพิ่มขึ้นมาได้อีกมากมาย เพราะอย่างน้อยทุกคนก็รู้ดีกว่า ที่สโมสรแห่งนี้พวกเขามีโอกาสลงเล่นและต่อยอดสู่สโมสรที่อยู่เหนือขึ้นไปได้ไม่ยาก