post

“งูใหญ่” อินเตอร์ มิลานพร้อมล่าแชมป์บิ๊กเอียร์สมัยที่สี่ไปกับคอนเต้

“งูใหญ่” อินเตอร์ มิลานหนึ่งในสโมสรยักษ์ใหญ่จากอิตาลี อดีตแชมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 3 สมัย (ยูโรเปี้ยนคัพเดิม) ภายใต้การคุมทีมของกุนซือคนใหม่ “อันเจโล่ คอนเต้” พร้อมแล้วกับการกลับมาไล่ล่าความสำเร็จในเส้นทางยุโรปอย่างเต็มตัวอีกครั้ง หลังต้องตกรอบเร็วเกินคาดในฤดูกาลก่อนด้วยน้ำมือของทีมรองแชมป์อย่างท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ไปอย่างน่าเสียดาย

เสริมทีมคับคั่ง ตามใบสั่งของกุนซือ

“ซูหนิง” กลุ่มทุนจากจีนเจ้าของสโมสรอินเตอร์ มิลาน ทุ่มเงินจำนวนมหาศาลและเสริมทัพได้นักเตะตามที่คอนเต้ต้องการแทบทั้งหมด โดยเฉพาะการคว้าตัว “โรเมลู ลูกากู” กองหน้าทีมชาติเบลเยียมจาก “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ด้วยค่าตัวสูงที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรถึง 75 ล้านปอนด์, อเล็กซิส ซานเชสปีกทีมชาติชิลีค่าเหนื่อยแพงจากสโมสรเดียวกัน รวมถึงดาวรุ่งทีมชาติอิตาลีอย่างสเตฟาโน่ เซนซี่, นิโคโล่ บาเรลล่า และดีเอโก้ โกดิน กัปตันทีมชาติอุรุกวัย ผนวกกับขุมกำลังเดิมทำให้ทีมงูใหญ่ในปัจจุบันพร้อมแล้วที่จะต่อกรได้ทุกทีมที่พวกเขาเจอและทุกแชมป์ในรายการที่พวกเขาต้องการ

อยู่กลุ่มแห่งความตาย

“งูใหญ่” อินเตอร์ มิลานโชคไม่ดีนักเมื่อถูกจับมาอยู่ในกลุ่มแห่งความตายอีกครั้ง หลังจากฤดูกาลที่แล้วทีมต้องอยู่ร่วมกลุ่มเดียวกับบาร์เซโลน่า, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และพีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น ก่อนต้องตกรอบไปอย่างน่าเสียดายด้วยกฎเฮด-ทู-เฮด (ประตูได้เสียเท่ากับสเปอร์ส) ในปีนี้ทีมงูใหญ่ได้ร่วมกลุ่มกับบาร์เซโลน่าหนึ่งในทีมเต็งอีกครั้ง รวมถึงโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์และสลาเวีย ปราก แชมป์จากเช็ก แต่ด้วยขุมกำลังที่เพียบพร้อมกว่าเดิมและฟอร์มการเล่นที่กำลังร้อนแรง โดยทีมงูใหญ่สามารถเก็บชัยชนะได้ 2 นัดรวดตั้งแต่เปิดฤดูกาลกัลป์โซ่ เซเรีย อา อินเตอร์ มิลานจึงน่าจะได้ผ่านเข้ารอบไปได้หากยังลงเล่นด้วยฟอร์มอันแข็งแกร่งเช่นนี้และมีโชคมากกว่าฤดูกาลก่อน

อินเตอร์ มิลาน อีกหนึ่งทีมที่น่าเสี่ยงเดิมพัน

อันที่จริงแล้วจะว่าเสี่ยงก็คงไม่ใช่นัก เมื่อทีมระดับนี้ที่มีทั้งเงินและดาวเตะชั้นนำ การวิเคราะห์คาดเดาผลการแข่งขันในแต่ละนัด สำหรับเซียนพนันบอลด้วยแล้วคงทำได้ไม่ยากนัก เรียกง่าย ๆ ว่า คบงูใหญ่ไม่มีผิดหวังแน่นอน ดังนั้นทีมนี้จึงเป็นอีกทีมที่นักพนันควรจะใส่เงินลงไปเช่นกัน

แชมเปียนส์ลีกกับคอนเต้

“อันเจโล่ คอนเต้” ได้รับการยอมรับกว่าเป็นกุนซือจอมแท็คติกคนนึงในวงการลูกหนังยุคปัจจุบัน เขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในทุกทีมที่เขาคุม เขาประสบความสำเร็จมากมายทั้งยูเวนตุส, ทีมชาติอิตาลี และเชลซี แต่ในแชมเปียนส์ลีกแล้ว คอนเต้ยังไม่เคยคว้าแชมป์ได้เลยในฐานะกุนซือ สำหรับทีมที่เพียบพร้อมไปด้วยประวัติศาสตร์และเงินทองจากกลุ่มทุนซูหนิงอย่างอินเตอร์มิลานในปัจจุบัน ที่พร้อมให้การสนับสนุนคอนเต้ทุกอย่าง นับเป็นความท้าทายอย่างยิ่งยวดของกุนซืออย่างคอนเต้แน่นอน และอาจจะไม่น่าแปลกใจเลยถ้าอินเตอร์ได้เป็นหนึ่งในทีมที่จะได้ลงชิงชัยใน “อตาเติร์ก สเตเดี้ยม” สนามในกรุงอิสตัลบุล ประเทศตุรกีที่จะเป็นสนามชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในปีนี้

 

post

เชลซีสิงโตน้ำเงิน (รอ)คำราม

หลังจากกุนซือชาวอิตาเลียนอันโตนิโอ คอนเต้พาเชลซีทำสถิติคว้าชัยชนะ 12 นัดรวดพร้อมเข้าป้ายคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อ 2 ฤดูกาลก่อน “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ได้เปลี่ยนแปลงทีมไปอย่างมากมายในทุกปี ทั้งกุนซือและนักเตะภายในทีม โดยเฉพาะฤดูกาลล่าสุดทีมได้ขายเอแด็ง อาซาร์ไปด้วยค่าตัวสถิติสโมสร 130 ล้านปอนด์ให้แก่เรอัล มาดริดในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล และยังเสียเมาริซิโอ ซาร์รี่กุนซือผู้พาทีมคว้าแชมป์ยูโรป้าคัพเมื่อฤดูกาลก่อนให้แก่ยูเวนตุส วันนี้ทีมต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับกุนซือป้ายแดงที่เป็นตำนานของทีมอย่าง “แฟรงค์ แลมพาร์ด”

เสียอาซาร์ในเวลาที่ติดโทษแบนซื้อ-ขายนักเตะ

การติดโทษแบนซื้อ-ขายนักเตะของเชลซีทำให้ในฤดูกาลนี้พวกเขาไม่สามารถเซ็นนักเตะใหม่ได้เลย แต่ยังถือว่าเป็นโชคดีที่เชลซีมีดาวรุ่งฝีเท้าเยี่ยมอยู่มากมายที่พร้อมขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่อย่างถาวร ทั้งคัลลั่ม ฮัดสัน โอดอยส์, เมสัน เมาท์ และแทมมี่ อับราฮัม จึงนับได้ว่ายังเป็นข่าวดีอยู่บ้าง แม้จะต้องเสียเอแด็ง อาซาร์และดาบิด ลุยซ์ 2 นักเตะหลักในรอบหลายปีของทีมออกไปในช่วงเวลานี้ก็ตาม

เชลซีของแฟรงค์ แลมพาร์ด

การเลือกแฟรงค์ แลมพาร์ดอดีตมิดฟิลด์ผู้เป็นเจ้าของสถิติทำประตูสูงสุดตลอดกาลของเชลซีมาเป็นผู้จัดการทีมนั้น สื่อต่าง ๆ ในอังกฤษและแฟนบอลจำนวนไม่น้อยออกอาการเป็นห่วงว่าอดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษผู้นี้จะเอาชื่อมาทิ้งไว้เสียเปล่า ๆ แลมพาร์ดมีประสบการณ์การคุมทีมน้อยมาก โดยมีเพียงพาทีมดาร์บี้ เคาน์ตี้ทีมระดับแชมเปี้ยนชิพเข้าชิงเพลย์ออฟก่อนพ่ายแพ้ให้แก่แอสตัน วิลล่าอดเลื่อนชั้นขึ้นมาพรีเมียร์ลีกในท้ายที่สุด อย่างไรก็ดีในช่วงเวลา เชลซีที่ติดโทษแบนการซื้อ-ขายนักเตะและเสียนักเตะคนสำคัญของทีมออกไป คงเป็นการยากที่กุนซือมีชื่อเสียงคนอื่น ๆ จะเสี่ยงมาคุมทีมในเวลานี้

เป้าหมายของทีมและการคาดหวังของแฟนบอลเชลซีในฤดูกาลนี้

การเปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีกโดยการบุกไปแพ้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ดถึง 4-0 มันคือฝันร้าย   ดี ๆ นี่เอง และแม้ทีมของแลมพาร์ดจะเล่นได้อย่างดีทีเดียวในแมทช์ต่อมาก็ไม่วายต้องมาพ่ายนัดชิงแชมป์ซุปเปอร์คัพให้แก่     ลิเวอร์พูลด้วยการดวลจุดโทษอีก ทั้ง ๆ ที่ในเวลา120 นาทีพวกเขาควรจะเป็นผู้ชนะเสียมากกว่าด้วยซ้ำ ปัจจุบันพวกเขาเล่นพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่ไปแล้ว 4 นัด มี 5 แต้มอยู่ในอันดับที่ 7 ของตารางห่างจากจ่าฝูงลิเวอร์พูล 5 คะแนน หากทีมของแลมพาร์ดยังคงเล่นฟุตบอลได้อย่างกล้าหาญดังเช่นปัจจุบัน การลุ้นโควต้าแชมเปียนส์ลีกที่หวังไว้คงไม่ไกลเกินเอื้อม ดังเช่นฤดูกาลก่อนที่เล่นได้อย่างกระท่อนกระแท่นในบางช่วงเวลา แต่สุดท้ายพวกเขาก็คว้าอันดับ 3 ในลีกและคว้าแชมป์ยูโรป้าคัพได้สำเร็จ

 

post

เรือใบจับติ้วเบาหวิวพร้อมแล่นฉิวซิวชปล.ครั้งแรก

“เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โคตรทีมมิลเลี่ยนแนร์แห่งเวทีพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ถูกจับสลากมาอยู่กลุ่มซีที่เบากว่าใครในทีมพรีเมียร์ลีกด้วยกัน ร่วมกับชัคตาร์ โดเน็ตส์(ยูเครน), ไดนาโม ซาเกร็บ(โครเอเชีย) และอตาลันต้า(อิตาลี) ที่เพิ่งได้ลงทำศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ทำให้โอกาสผ่านเข้ารอบต่อไปของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่เหมา 3 แชมป์ในซีซั่นที่ผ่านมาจากอังกฤษดูสดใสเหลือเกินในฐานะแชมป์กลุ่ม

ทีมที่สมบูรณ์เต็มไปด้วยความสมดุล

แมนเชสเตอร์ ซิตี้เสริมทัพไม่มาก แต่ได้นักเตะที่ลงตัวและทดแทนกันได้ในตำแหน่งที่ต้องการ โดยในปีนี้ทีมได้  “โรดรี้” มิดฟิลด์ทีมชาติสเปนจากแอตเลติโกมาดริดเข้ามา เพื่อเป็นตัวแทนแฟร์นันดินโญ่ที่เริ่มอายุมากขึ้น และโรดรี้ก็ไม่ปล่อยให้แฟนบอลเรือใบสีฟ้าต้องรอนาน เขาปรับตัวเข้ากับทีมได้อย่างรวดเร็วและโชว์ฟอร์มได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากโรดรี้แล้ว แมนฯซิตี้ได้คว้าชูเอา คันเซโล่แบ็คขวาทีมชาติโปรตุเกสซึ่งมีปีที่ยอดเยี่ยมในฤดูกาลที่ผ่านมากับยูเวนตุส แต่โชคร้ายที่เขาไม่ใช่นักเตะที่เมาริซิโอ ซาร์รี่โค้ชคนใหม่ของยูเวนตุสต้องการ นั่นกลายเป็นโชคดีของแมนซิตี้ที่ได้เขามาร่วมทีมเพื่อโรเตชั่นในตำแหน่งแบ็คขวาของไคล์ วอคเกอร์ที่เป็นกำลังหลักของทีมมาตลอดจะได้พักบ้าง ทำให้แมนฯซิตี้ในชุดปัจจุบันลงตัวและมีนักเตะทดแทนกันได้อย่างกลมกลืนแทบทุกตำแหน่ง

ฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรง

ฤดูกาลที่แล้วแมนฯ ซิตี้สร้างประวัติศาสตร์คว้าทุกแชมป์ในการลงเล่นบนเกาะอังกฤษได้เป็นทีมแรก และยังคง โชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงมาตลอดตั้งแต่เปิดฤดูกาลเป็นต้นมา แม้จะสะดุดเสมอสเปอร์ส 2-2 ในบ้านหลังถูก VAR ปฏิเสธการได้ประตูชัย (อีกแล้ว) แต่ฟอร์มการเล่นของทีมยังร้อนแรง เกมรุกที่หลากหลายลงตัว ยากแก่การต้านทาน ไม่ว่า “เป๊บ กวาร์ดิโอล่า” จะจัดใครลงเล่น นับว่าเป็นยอดทีมแห่งยุคอย่างแท้จริง แมนฯ ซิตี้ได้ถูกจัดเป็นเต็งหนึ่งในแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลนี้จากทุกบริษัทรับพนันถูกกฎหมาย แม้ว่าทีมยังไม่เคยแม้แต่จะเข้าชิงถ้วยใบนี้เลยก็ตาม

เต็งหนึ่งแชมเปียนส์ลีก

ด้วยขุมกำลังที่เพียบพร้อมไปทุกตำแหน่ง ฟอร์มการเล่นที่กำลังเข้าฝัก หรือมันสมองของกุนซือที่ว่ากันว่าเก่งที่สุดในโลกในปัจจุบันอย่างเป๊ป กวาร์ดิโอล่า หากทีมยังคงรักษาฟอร์มการเล่นได้เช่นนี้ และไม่โชคร้ายเกินไปนักเหมือนเช่นฤดูกาลก่อนที่ VAR พรากโอกาสเข้ารอบไปจากพวกเขาไปช่วงทดเวลาเจ็บในสนาม “เอติฮัต สเตเดี้ยม” ของพวกเขาเองอย่างบอบช้ำ เชื่อว่าถ้วยบิ๊กเอียร์ที่แฟนเรือใบสีฟ้าปรารถนาคงไม่หลุดมือไปจากพวกเขาแน่นอน

 

post

บาเยิร์น มิวนิคกับการทุ่มเงินครั้งประวัติศาสตร์เพื่อแชมเปียนส์ลีก?

บาเยิร์น มิวนิคสโมสรอันดับหนึ่งแห่งบุนเดสลีกา ลีกสูงสุดของเยอรมัน ผู้เป็นเจ้าของสถิติสูงสุดในการคว้าแชมป์ลีกได้ได้ถึง 29 ครั้ง และคว้าแชมป์ติดต่อกันได้ถึง 7 ครั้งใน 7 ปีล่าสุดอีกด้วย ทุบกระปุกครั้งประวัติศาสตร์ของสโมสรแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน ทุ่มซื้อสตาร์ดังแถวหน้าของยุโรปเพื่อลุ้นคว้าแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลนี้ให้จงได้ หลังจากคว้าแชมป์บิ๊กเอียร์ได้ครั้งสุดท้ายในปี 2012-13

การทุ่มเงินซื้อนักเตะครั้งประวัติศาสตร์

บาเยิร์น มิวนิค คือ สโมสรฟุตบอลที่สามารถคว้าแชมป์บุนเดสลีกาเยอรมันและแชมป์เด เอฟเบโพคาลได้มากที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งนั่นดูจะไม่ใช่เป้าหมายสำคัญที่สุดลำดับแรก ๆ ของทีมใหญ่แห่งแคว้นบาบาเรียทางตอนใต้ของเยอรมันเสียแล้ว หลังสโมสรเดินหน้าทุ่มเงินดึงนักเตะชั้นนำอย่างต่อเนื่องโดยคว้าตัว “ลูอิส แฟร์น็องเดซ” กองหลังและแบ็คขวาทีมชาติฝรั่งเศส จากสโมสรแอตเลติโก มาดริด ด้วยค่าตัวแพงที่สุดเป็นสถิติสโมสรถึง 80 ล้านยูโร รวมถึงเบนจาแม็ง ปาวาร์ แบ็คซ้ายทีมชาติฝรั่งเศสเช่นกัน จากสตุ๊ตกาทท์ และทุ่มเงินมากกว่า 100 ล้านยูโร เพื่อขอซื้อเลอรอยด์ ซาเน่ ปีกทีมชาติเยอรมันจากแมนฯซิตี้ ซึ่งน่าเสียดายที่อดีตนักเตะของชาลเก้ผู้นี้ได้รับบาดเจ็บหนักไปเสียก่อน แต่ที่ฮือฮากว่าทุกคนที่กล่าวมาคือการดึงฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เพลย์เมกเกอร์ค่าตัวแพงจากบาร์เซโลน่า ด้วยการยืมตัวพร้อมออฟชั่นซื้อขาดเป็นเงินกว่า 120 ล้านยูโร ทำให้บาเยิร์น มิวนิคกลับมาเป็นทีมที่ได้รับการจับตามองในเวทียุโรปอีกครั้ง

คำถามเกี่ยวกับนิโก้ โควัช

นิโก้ โควัช คือ กุนซือหนุ่มไฟแรง ที่มีข่าวจะถูกปลดจากทีมแทบจะทุกสัปดาห์ตั้งแต่เข้ามาคุมทีมใหญ่อย่างบาเยิร์นเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ผลงานของโควัชในฤดูกาลที่ผ่านมาเกือบจะเอาตัวไม่รอด กว่าจะพาบาเยิร์น มิวนิคคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้แบบหวุดหวิด หลังจากทีมดอร์ทมุนด์คู่แข่งของเขาออกอาการแผ่วปลาย ก่อนจะคว้าแชมป์เดเอฟเบโพคาลได้ด้วยชัยชนะเหนือไลป์ซิก ที่มีศักยภาพทีมเป็นรองบาเยิร์นอยู่หลายช่วงตัวทีเดียว แต่นั้นอาจจะยังไม่เพียงพอเพราะบาเยิร์นต้องแพ้ต่อลิเวอร์พูลในบ้าน 0-2 ตกรอบแชมเปียนส์ลีกไปอย่างน่าเสียดาย แฟนบอลจึงยังตั้งคำถามถึงฝีมือในการทำทีมของโค้ชหนุ่มชาวโครเอเชียคนนี้จนถึงปัจจุบัน

แชมเปียนส์ลีกเป้าหมายแท้จริงที่เก็บอยู่ในใจ

ความสำเร็จในฟุตบอลลีกและฟุตบอลถ้วยของเยอรมัน ดูจะไม่มีความจำเป็นเลยที่สโมสรจะต้องทุ่มเงินมหาศาลเพื่อดึงนักเตะซุปเปอร์สตาร์แถวหน้าของยุโรป มาเพื่อรักษาความสำเร็จเดิม ๆ ของสโมสรเอาไว้ เพราะด้วยทรัพยากรนักเตะที่มีอยู่ก็ยังเป็นต่อทีมคู่แข่งอยู่บานเบอะ ถึงแม้อูลี่ เฮอเนสและและคาร์ลไฮน์ รุมเมนิเก้ สองผู้บริหารคนสำคัญของสโมสรจะพูดถึงเป้าหมายในยุโรปโดยตรง แต่เชื่อได้เลยว่าบาเยิร์น มิวนิคไม่ต้องการที่จะหยุดสถิติการคว้าแชมป์บิ๊กเอียร์อยู่เพียงแค่ 5 สมัยอย่างแน่นอน

 

post

UEFA Champions League 2019 Group G กลุ่มนี้คือสวรรค์ของนักลงทุน

จับสลากแบ่งสายกันไปแล้วสำหรับฟุตบอลรายการใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป หรือ UEFA Champions League 2019 ปีนี้ไม่มีกรุ๊ป ออฟ เดธ หรือกลุ่มแห่งความตายให้แฟน ๆ ได้ร้องซี้ดซ้าดเพราะทีมใหญ่ ๆ ไม่กระจุกตัวอยู่ในสายเดียวกัน แต่กลับกันมีทีมที่ภาษาฟุตบอลเรียกว่าทีมไม้ประดับอันแปลได้ว่าทีมที่เข้าแข่งขันในรายการให้พอเป็นสีสันไม่ค่อยแข็งแกร่งเท่าไรอยู่ร่วมสายกันเสียอย่างนั้น แน่นอนนักลงทุนถึงกับลูบปากเพราะนี่คือโอกาสดีที่จะล้มโต๊ะจริง ๆ แล้ว และกลุ่มที่ว่าก็คือกรุ๊ป G ที่ประกอบไปด้วยทีมต่าง ๆ เหล่านี้

โอลิมปิค ลียง ทีมจากลีกเอิงสร้างความประทับใจในรายการนี้เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา พวกเขาสามารถผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกได้ทั้งยังสามารถเสมอกับโคตรทีมแกร่งอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในรอบ 16 ทีมได้จนเป็ป กวาดิโอล่าต้องออกปากชมนักเตะหลาย ๆ คนของโอแอลว่าเป็นผู้เล่นที่มีอนาคต ซึ่งด้วยบุญเก่าที่ทำไว้ดีในกลุ่มนี้ทีมดังจากฝรั่งเศสจึงถูกวางให้เป็นทีมเต็งแชมป์ของสายเหนือกว่าทีมอื่น ๆ อยู่เล็กน้อย

เบนฟิก้า ทีมชั้นนำจากลีกโปรตุกีสไม่มีสตาร์ดังเหมือนทีมอื่น ๆ แถมยังเสียนักเตะพรสวรรค์สูงอย่างชูเอา เฟลิกซ์ไปให้ทีมตราหมี แอตเลติโก้ มาดริด แม้จะเป็นรองทีมอื่นในกลุ่มพอประมาณ แต่ด้วยความที่ทีมเหยี่ยวแดงเป็นฟุตบอลที่เล่นกันอย่างมีวินัย ทีมเวิร์คยอดเยี่ยม ทำให้พวกเขาพอจะมีโอกาสเก็บแต้มในบ้านได้บ้างแต่สำหรับการออกไปเยือนต้องบอกว่าโอกาสมีแต้มอยู่ที่ 50/50 เท่านั้น

แอร์เบ ไลป์ซิก ทีมเต็งที่ VWIN จัดให้อยุ่ในอันดับสองของกลุ่มมีดีเรื่องเกมรุกและเกมรับอยู่พอตัวแต่ยังอ่อนประสบการณ์ในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยใหญ่ของยุโรปรวมทั้งเรื่องการรักษาฟอร์มให้สม่ำเสมอ สำหรับฟอร์มในบ้านพอเชื่อขนมกินได้และนักวิเคราะห์หลายคนก็ให้ความเห็นว่าโอกาสในการได้แชมป์กลุ่มค่อนข้างสูสีกับโอลิมปิค ลียงอยู่พอสมควร

เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก อดีตทีมเงินถุงเงินถังจากลีกรัสเซียถูกวางให้เป็นทีมม้ามืดในกลุ่มนี้เพราะเป็นทีมที่มีนักเตะชื่อดังอยู่หลายคนโดยเฉพาะศูนย์หน้าตัวอันตรายทีมชาติอิหร่านอย่างซาร์ดา อัซมูน แต่ปัญหาของพวกเขาก็พอมีอยู่เพราะบรรดาแนวรับหลายคนของทีมอยู่ในช่วงโรยรา ซึ่งถ้าผ่านการกรำศึกหนักติดต่อกันทั้งในลีกและฟุตบอลยุโรปก็ยังมีความเป็นไปได้อยู่พอ ๆ กันทั้งรอดเข้ารอบหรือร่วงไปเล่นยูโรป้าลีก

นี่คือการแนะนำจุดแข็งและจุดอ่อนของทีมร่วมกลุ่ม G ในรายการ UEFA Champions League 2019 เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้นประกอบการตัดสินใจ อย่างไรก็ดีในกลุ่มนี้ก็ยังถือว่าเป็นกลุ่มที่น่าลงทุนวางเดิมพันที่สุดแล้วเพราะอัตราต่อรองในแต่ละเกมบวกลบไม่น่าจะเกิน 0.0-0.5 เนื่องจากแต่ละทีมศักดิ์ศรีไม่ห่างกันมากนักและถ้าหากนักลงทุนหาข้อมูลแน่น ๆ วิเคราะห์ดี ๆ ก็คาดเดาผลการแข่งขันได้ง่ายกว่ากลุ่มอื่น ๆ ค่อนข้างมากเลยทีเดียว