post

หลังจากเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันรีไทร์จากเก้าอี้กุนซือ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปี 2012-13 ดูเหมือนบรมกุนซือชาวสก็อตแลนด์จะนำเอาความสำเร็จและจิตวิญญาณนักเตะติดตามไปกับเขาด้วย แมนฯยูไนเต็ดเปลี่ยนกุนซืออีกหลายต่อหลายคน ทุ่มเม็ดเงินเสริมนักเตะไปมหาศาล แต่กลับได้มาเพียงแชมป์เอฟเอคัพในปี 2015-16 และแชมป์ยูโรป้าคัพในปี 2016-17 เท่านั้น ดูเหมือนว่าช่วงเวลาอันมหัศจรรย์ที่เซอร์อเล็กซ์เคยร่ายมนตร์เอาไว้มันได้ผ่านพ้นไปเสียแล้ว

กุนซือใหม่หน้าเด็ก(เก่า)โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

กุนซือหนุ่มฉายา “เบบี้เฟซ” อย่างโซลชานับได้ว่าเป็นศิษย์ก้นกุฎิของเฟอร์กูสันอย่างแท้จริง ในสมัยที่เขาเป็นนักเตะของแมนฯยูไนเต็ด ได้สร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีซเอาไว้ให้กับทีม แต่การได้รับโอกาสคุมทีมขวัญใจมหาชนอย่างแมนฯยูฯนั้น คงนำผลงานเก่า ๆ มาช่วยอะไรเขาได้ไม่มากนัก โซลชาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมอดย่างมากในช่วงที่รับงานคุมทีมชั่วคราวเมื่อปลายฤดูกาลก่อน แต่เมื่อได้รับการแต่งตั้งถาวรผลงานของทีมก็เริ่มดิ่งลงจนพลาดการทำอันดับไปเล่นในแชมเปียนส์ลีกในที่สุด

การเสริมทัพที่ดีกับปัญหาที่ยังคงมีอยู่

ในฤดูกาลนี้แมนฯยูฯ เสริมทัพอย่างตรงจุด โดยการดึง 2 นักเตะทีมชาติอังกฤษอย่างแฮร์รี่ แม็คไกวร์ด้วยค่าตัวสถิติโลกของกองหลัง 80 ล้านปอนด์, อารอน วาน-บิสซาก้า แบ็คขวา 50 ล้านปอนด์ และแดเนี่ยล เจมส์ปีกจรวดทีมชาติเวลส์จากสวอนซี 15 ล้านปอนด์ ซึ่งทุกคนต่างทำผลงานได้ดีตั้งแต่เปิดฤดูกาล แต่นั่นยังไม่เพียงพอที่จะยกระดับของทีมกับแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ให้หมดไปได้ ไม่ว่าจะเรื่องข่าวการย้ายทีมของปอล ป็อกบานักเตะระดับโลกคนเดียวที่แมนยูมีในปัจจุบัน แนวรุกที่เต็มไปด้วยนักเตะอายุน้อยอย่างเจมส์, แรชฟอร์ด และมาร์กซิยาลที่ฟอร์มไม่ต่อเนื่อง สปิริตของทีมที่ไม่เหมือนก่อน นักเตะบางคนยังสนใจเล่นเพื่อตัวเองมากกว่าทีม บางคนเล่นเพื่อทีมแต่ฝีเท้ายังต้องพัฒนาอีกมาก คือปัญหาต่าง ๆ ที่โซลชาต้องเร่งแก้ไข

การเดิมพันมีผลต่อทั้งโซลชาและเหล่าแฟนบอล

ไม่เพียงแต่กับโซลชาเท่านั้นที่ต้องเดิมพันอนาคตของตนเอง แฟนบอลของทีมก็เช่นกัน เพราะแน่นอนว่าในต่างประเทศนั้น แฟนบอลไม่น้อยที่ชมเกมไปพร้อมกับการวางเดิมพันอย่างถูกกฎหมายด้วยทุกครั้ง ในขณะที่ฟอร์มทีมของตัวเองเป็นแบบนี้ ครั้นจะให้ไปวางเดิมพันตรงข้ามก็ดูจะไร้ศักดิ์ศรีมาก ซึ่งตรงนี้เองที่มีแฟนบอลไม่น้อยเลือกที่จะไม่วางเดิมพันเลยดีกว่า ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นงานหนักเหมือนกัน ที่โซลชาต้องเรียกศรัทธาทั้งหมดกลับมาให้ได้

เป้าหมายของบอร์ดบริหารและเวลาของโซลชา

แมนฯยูฯใช้เงินเสริมทัพไปแล้วราว 150 ล้านปอนด์ แต่พวกเขาก็ได้เงินจากการขายลูกากูกองหน้าคนเก่าของทีมมากถึง 75 ล้านปอนด์เช่นกัน และยังลดค่าใช้จ่ายบางส่วนจากการปล่อยยืมอเล็กซิส ซานเชซที่มีค่าเหนื่อยนสุดโหดอีกด้วย แมนฯยูฯจึงควรซื้อนักเตะอีกอย่างน้อย 2 ตำแหน่งให้กับทีม ตำแหน่งแรกที่ควรเสริมอย่างมากคือเพลย์เมคเกอร์ การดื้อใช้เจสซี่ ลินการ์ด นักเตะที่ไม่เคยมีส่วนร่วมในทุกประตูที่แมนฯยูฯยิงได้เลยกว่า 8 เดือนในตำแหน่งเบอร์ 10 คงถึงเวลาแล้วที่สโมสรระดับแมนยูต้องมีนักฟุตบอลที่ดีกว่านี้ กองหน้าคืออีกตำแหน่งที่ควรจะซื้อเพิ่ม เนื่องจากในปัจจุบันมีจำนวนน้อยเกินไป หลังจากดาวยิงทีมชาติเบลเยียมได้ย้ายออกไป หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากบอร์ดบริหารอย่างที่ควรจะเป็น ทีมของโซลชาก็คงลำบากที่จะพาทีมกลับไปเล่นแชมเปียนส์ลีกหรือลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกก็ตาม เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันใช้เวลาถึง 7 ปีในการพาทีมเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษสมัยแรก แต่สำหรับโซลชาแล้ว เวลาของเขาอาจมีเพียงฤดูกาลนี้เท่านั้น หรือบางทีเขาก็คือแพะของบอร์ดบริหารเหมือนกุนซือหลายคนที่ผ่านมา