post

ในฤดูกาล 2019/2020 คงถือเป็นปีที่น่าเศร้าใจสำหรับแฟนบอลทีมไก่เดือยทองท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ที่จบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 6 และคว้าสิทธิ์ไปแข่งในรายการยูฟ่า ยูโรป้าลีกหรือถ้วยเล็กของเกมยุโรปเท่านั้น ซึ่งถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานที่พวกเขาเคยทำไว้หลังจากที่ฤดูกาลก่อนสามารถลงแข่งในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกรอบชิงชนะเลิศแม้จะพ่ายให้กับลิเวอร์พูลทีมคู่แข่งจากประเทศเดียวกันไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ความพ่ายแพ้นี้จะลงผลอย่างหนักให้กับทีมสเปอร์จนฟอร์มตกอย่างน่าใจหาย ก่อนที่การเปลี่ยนแปลงในตัวผู้จัดการทีมจะเกิดขึ้นจนทำให้ทีมไก่เดือยทองเริ่มมีความหวังในการกลับไปเป็นยักษ์ใหญ่ที่พวกเขาเคยเป็นมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ความผิดหวังที่กระทบถึงทีมในฤดูกาลถัดมา

กลายเป็นข้ออ้างที่ดูมีมูลของสเปอร์ทันทีว่าพวกเขาและแฟน ๆ ที่เลือกวางเดิมพันข้างเขาเสียใจอย่างมากที่ไม่ได้แชมป์ในการแข่งขันแชมเปียนส์ลีกทั้งทีพวกเขาสามารถไปถึงรอบชิงชนะเลิศแล้วก็ตาม โดยพวกเขาสามารถเอาชนะคู่แข่งได้เพียง 3 เกมจาก 12 เกมแรกในฤดูกาลนี้ก่อนที่ผู้จัดการคนเก่าอย่างเมาริซิโอ พอเชตติโน่จะถูกปลดออกมาสโมสร แล้วแต่งตั้งผู้จัดการที่เคยคว้าแชมป์มาแล้วกับทุกทีมอย่างโจเซ่ มูรินโญ่มาแทน แม้ผลงานของทีมจะดีขึ้นและเริ่มไต่อันดับขึ้นมาอยู่ครึ่งบนของตารางได้สำเร็จ แต่ด้วยขุมกำลังที่น้อยเกินไป รวมถึงการเสียตัวทำเกมอย่างคริสเตียน เอริคเซ่นไปให้กับอินเตอร์ มิลาน แต่ไม่มีใครมาทดแทนในตำแหน่งเดียวกัน อีกทั้งอาการบาดเจ็บรบกวนกองหน้าตัวเก่งของทีมทั้งแฮร์รี่ เคนและซอง ฮง มินทำให้ทีมเสียสมดุลและไม่อาจบินสูงได้อย่างที่เคยเป็น

ความเก๋าเกมของมูรินโญ่

สิ่งที่ดูเป็นความหวังของทีมไก่เดือยทองได้อย่างดีในอนาคตคือการที่มีตัวกุนซือที่ชื่อว่ามูรินโญ่นั่นเอง ส่วนหนึ่งเพราะเขาเป็นคนที่ประสบความสำเร็จกับทุกสโมสรที่เขาเคยคุมทีม ไม่ว่าจะเป็นปอร์โต้, เชลซี, อินเตอร์ มิลาน หรือล่าสุดอย่างทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งชื่อของเขาเป็นเหมือนขั้วตรงข้ามกับพอชเชติโน่ซึ่งมีรูปแบบการเล่นที่สวยงามแต่มักจะตายน้ำตื้นเป็นได้แค่ที่สองเท่านั้น นับตั้งแต่วันที่กุนซือชาวโปรตุเกสเข้ามาคุมสเปอร์ ทีมของสามารถคว้าชัยในลีกได้ถึง 13 นัดจาก 26 เกมและแพ้ไปเพียง 7 เกมเท่านั้น ซึ่งในหกเกมสุดท้ายพวกเขาไม่แพ้ใครเลยจนสามารถทำอันดับกลับไปเล่นในถ้วยใบเล็กของยุโรปได้สำเร็จ จะเห็นได้ว่าเมื่อทีมของมูรินโญ่เริ่มลงตัวแล้วจะกลายเป็นทีมที่แพ้ยากและพร้อมปิดเกมเสมอ ด้วยเหตุนี้หากพวกเขาได้ผู้เล่นเกมรุกมาช่วยแบ่งเบาภาระของกองหน้า น่าจะทำให้สเปอร์กลายเป็นผู้ท้าชิงแชมป์ที่น่ากลัวเหมือนที่เคยเป็นอย่างหลายปีก่อน

แฟนบอลของสเปอร์และเหล่านักพนันยุคนี้ อาจจจะใช้เวลาเพื่อปรับตัวกับสไตล์ใหม่ของทีม ซึ่งจากเดิมเน้นเกมรุกไปสู่การเล่นเพื่อเอาชนะเท่านั้นตามสไตล์ของผู้จัดการทีม ที่มักจะไม่ถูกใจแฟนบอลทีมอื่น ๆ ที่ตัวมูรินโญ่เคยคุมผ่านมาแต่สิ่งหนึ่งที่รับประกันได้เสมอก็คือพวกเขาจะกลายเป็นทีมที่เก๋าเกมและการคว้าแชมป์ตามสไตล์มูรินโญ่อาจเกิดขึ้นอีกในไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งสุดท้ายคนที่จะมีความสุขที่สุดก็หนีไม่พ้นเดเนียล เลวี่ส์และแฟนบอลของทีมนั่นเอง