post

โคโรน่าไวรัส กับการตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก

สต๊าฟโค้ชเป็นเวลา 14 วัน รวมไปถึง เบนจามิน เมนดี้ กองหลังของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ต้องได้รับการกักตัวเนื่องจากสมาชิกครอบครัวตรวจพบว่ามีการติดเชื้อโควิด-19 นอกจากนั้นเลสเตอร์ ซิตี้ กับ เอฟเวอร์ตัน ก็เป็นอีกสองสโมสรที่ได้ออกคำสั่งกักตัวนักเตะและสต๊าฟโค้ชของตัวเอง

แม้ระหว่างพักการแข่งขันนี้ นักเตะจะยังคงทำการฝึกซ้อมตามปกติภายใต้การเฝ้าระวังและตรวจสอบอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์ประจำสโมสร เพื่อให้พร้อมสำหรับการลงแข่งขัน แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบันทำให้อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าเมื่อถึงเวลาที่กำหนดศึกพรีเมียร์ลีกจะกลับมาแข่งขันได้หรือไม่ และหากต้องมีการเลื่อนการแข่งขันออกไปเรื่อย ๆ จะทำอย่างไรกับผลการแข่งขันในฤดูกาลนี้ เมื่อยังเหลือการแข่งขันอีก 9 นัด และยังไม่สามารถหาทีมแชมป์หรือทีมตกชั้นได้อย่างเป็นทางการ ซึ่งตอนนี้นักพนันที่ VWIN ก็ลุ้นกันใจจรดใจจ่อ ว่าจะได้ลุ้นไปอีกนานแค่ไหน

แม้การลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล จะนำโด่งเป็นจ่าฝูงเหนือทีมเรือใบสีฟ้าถึง 25 แต้ม แต่เมื่อคะแนนยังไม่ทิ้งขาดก็ยังไม่ถือเป็นการการันตีแชมป์ ในขณะที่การลุ้นหนีตกชั้นก็กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น มีทีมท้ายตารางถึง 6 สโมสรที่เข้าข่ายลุ้นหนีตกชั้น จนเกิดเป็นคำถามว่าพรีเมียร์ลีกจะจัดการอย่างไรหากไม่สามารถจัดการแข่งขันต่อได้ ซึ่งมีอยู่ 2 ทางเลือกคือ ตัดจบฤดูกาลนี้เพียงเท่านี้ โดยยึดตารางคะแนนในปัจจุบันเป็นตัวตัดสิน หรือไม่ก็ให้ผลการแข่งขันที่ผ่านมาทั้งฤดูกาลเป็นโมฆะแล้วเริ่มแข่งขันกันใหม่ตั้งแต่ต้นเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ

โดยก่อนหน้านี้ฟุตบอลลีกอังกฤษเคยประกาศให้ผลการแข่งขันเป็นโมฆะมาแล้วในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่ออังกฤษประกาศทำสงครามกับเยอรมัน เป็นผลให้ฟุตบอลดิวิชั่น 1 อังกฤษ ฤดูกาล 1939-40 ต้องถูกยกเลิกการแข่งขันทันที หลังจากเปิดซีซั่นไปได้แค่ 3 นัด ก่อนที่จะกลับมาทำการแข่งขันกันอีกครั้งในฤดูกาล 1946-47 ด้วยกำหนดการแข่งขันเดิม โดยยกเลิกผลการแข่งขันทั้ง 3 นัดแล้วให้เริ่มแข่งขันกันใหม่ตั้งแต่ต้น ซึ่งหากพรีเมียร์ลีกเลือกวิธีการในอดีตเป็นบรรทัดฐาน สโมสรลิเวอร์พูลและสาวกหงส์แดงคงไม่ยอมเป็นแน่ เพราะหากชนะอีกแค่ 2 นัด พวกเขาก็จะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรอย่างเป็นทางการแล้ว

แม้อังกฤษจะได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีการเตรียมพร้อมรับมือกับโรคระบาดได้ดีเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก แต่จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงมากกว่า 1100 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้โอกาสกลับมาลงแข่งขันอีกครั้งหลังวันที่ 4 เมษายน น่าเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้น จึงต้องติดตามกันต่อไปว่าพรีเมียร์ลีกจะตัดสินใจขั้นเด็ดขาดอย่างไรในท้ายที่สุด