post

บ่อนรับพนันลดราคาเด้งโซลชาอัลเลกรีเต็งเสียบแทน

แล็กโบรกส์หนึ่งในบริษัทรับพนันถูกกฎหมายชื่อดังในประเทศอังกฤษปรับลดราคาต่อรอง การถูกปลดออกจากตำแหน่งกุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดของโอเล่กุนนาร์โซลชาร์ ลงอย่างฮวบฮาบ ด้วยอัตรา 2-1 (แทง 1 จ่าย 2 ไม่รวมทุน) หากกุนซือเบบี้เฟซชาวนอวีเจี้ยน ถูกไล่ออกก่อนหมดฤดูกาลนี้ หลังจากฟอร์มแมนฯยูไนเต็ด ไม่เพียงแต่ไม่กระเตื้อง แต่ยังมีทีท่าดิ่งลงเหวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนนึงมาจากปัญหานักเตะหลักของทีมหลายคนบาดเจ็บพร้อมกัน โดยนัดล่าสุดปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดออกไปพ่ายให้แก่นิวคาสเซิลที่สนามเซนต์ เจมส์ ปาร์คด้วยสกอร์ 1-0 ซึ่งทีมเล่นได้อย่างย้ำแย่ ทำให้แมนฯยูฯของโซลชาอยู่อันดับที่ 12 ในตอนนี้ห่างจากเลสเตอร์ ซิตี้ทีมอันดับ 4 อยู่ 5 แต้ม แต่ห่างจากทีมในโซนตกชั้นอย่างเอฟเวอร์ตันอยู่เพียง 2 แต้มเท่านั้น

ปัญหาที่ยังไม่รู้จบของปีศาจแดง

โซลชาต้องรับผิดชอบกับผลงานอันตกต่ำของทีมในฐานะที่เขาคือกุนซือใหญ่แห่งถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ดก็จริง แต่สิ่งที่เป็นปัญหาที่แท้จริงของทีมอาจจะไม่ได้มีเพียงเท่านั้น ซึ่งบางทีแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็อาจจะต้องการผู้อำนวยการฟุตบอล เหมือนที่ทุกสโมสรชั้นนำต่างมีผู้มีความรู้และประสบการณ์เรื่องฟุตบอลอย่างแท้จริงมาร่วมสร้างทีม แม้ว่าในฤดูกาลนี้นักเตะที่แมนยูดึงเข้ามาร่วมทีมอย่างดาเนียล เจมส์, วานบิสซาก้าและแฮร์รี่ แม็คไกวร์ ต่างทำผลงานส่วนตัวกันได้อย่างยอดเยี่ยม แต่การที่ทีมขายกองหน้าอย่างโลเมลู ลูกากู และปล่อยอเล็กซิส ซานเชซให้สโมสรอินเตอร์ มิลานยืมโดยไม่ดึงแนวรุกเข้ามาเพิ่ม นั่นทำให้ในตอนนี้แมนฯยูฯแทบไม่เหลือกองหน้าส่งลงสนามเลยเมื่อมาร์คัส แรชฟอร์ดหรืออ็องตัวนี่ มาร์กซิยาลกองหน้าตัวหลักของทีมบาดเจ็บเช่นในปัจจุบัน

การปรับปรุงทีมอย่างเร่งด่วน

การที่บอร์ดบริหารของแมนฯยูจะต้องมองเรื่องการซื้อนักเตะใหม่และการหากุนซือใหม่ไปพร้อมกันเป็นเรื่องที่ไม่เห็นกันบ่อยนัก บริษัทรับพนันถูกกฎหมายยกให้เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่กุนซือคนปัจจุบันของสเปอร์ที่ดูจะมีปัญหากับบอร์ดบริหารเช่นกัน เป็นเต็งหนึ่งที่จะมาคุมทีมปีศาจแดง หรือเต็งสองอย่างมัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรีอดีตกุนซือคนเก่งของยูเวนตุสที่กำลังว่างงานอยู่ก็อีกเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างมาก สำหรับนักเตะชื่อดังที่เป็นข่าวกับทีม ก็มีทั้งคนเดิมอย่างบรูโน่ แฟร์น็องเดซที่มีข่าวกับทีมมาตลอด, อีวาน ราคิติชซึ่งตกเป็นเพียงตัวสำรองกับบาร์เซโลน่า และแนวรุกอย่างเปาโล ดิบาล่าที่อนาคตยังไม่แน่ชัดกับม้าลายยูเวนตุสรวมถึงกองหน้าอย่างมุสซ่า เดมเบเล่จากโอลิมปิก ลียง ซึ่งพร้อมจะเข้ามาแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแนวรุกในปัจจุบัน

ฤดูกาลที่จ่ายค่าเหนื่อยสูงสุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร

ดูเหมือนฝันร้ายของแมนยูไนเต็ดจะไม่ได้มีเพียงผลงานในสนามเท่านั้น ถึงแม้พวกเขาจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นทีมที่ร่ำรวยและมีแฟนบอลมากอันดับต้น ๆ ของโลกแต่การต้องจ่ายค่าเหนื่อยถึง 306 ล้านยูโรต่อปี โดยเป็นรองแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่จ่ายค่าเหนื่อย 334 ล้านยูโร แต่ผลงานกลับต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะเลสเตอร์ ซิตี้ทีมอันดับสี่ของเวทีพรีเมียร์ลีกในปัจจุบันที่ที่จ่ายค่าเหนื่อยนักเตะเพียง 132 ล้านยูโรต่อปีน้อยกว่าเกือบ 3 เท่าที่แมนฯยูไนเต็ดจ่ายค่าเหนื่อยให้กับนักเตะในปัจจุบันเสียอีก หากนับรวมทุกสโมสรในยุโรปแล้ว แมนฯยูไนเต็ดจ่ายค่าเหนื่อยนักเตะเป็นอันดับ 4 ในสโมสรของยุโรปโดยเป็นรองแมนเชสเตอร์ ซิตี้, บาร์เซโลนาและเรอัล มาดริด การปลดโอเล่กุนนาร์โซลชาร์จึงอาจจะไม่ใช่การแก้ปัญหาทั้งหมดและทำให้ทีมกลับมาบินสูงอีกครั้ง

post

ปีศาจแดงยุคใหม่กับโซลชา ในฐานะกุนซือ

หลังจากเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันรีไทร์จากเก้าอี้กุนซือ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปี 2012-13 ดูเหมือนบรมกุนซือชาวสก็อตแลนด์จะนำเอาความสำเร็จและจิตวิญญาณนักเตะติดตามไปกับเขาด้วย แมนฯยูไนเต็ดเปลี่ยนกุนซืออีกหลายต่อหลายคน ทุ่มเม็ดเงินเสริมนักเตะไปมหาศาล แต่กลับได้มาเพียงแชมป์เอฟเอคัพในปี 2015-16 และแชมป์ยูโรป้าคัพในปี 2016-17 เท่านั้น ดูเหมือนว่าช่วงเวลาอันมหัศจรรย์ที่เซอร์อเล็กซ์เคยร่ายมนตร์เอาไว้มันได้ผ่านพ้นไปเสียแล้ว

กุนซือใหม่หน้าเด็ก(เก่า)โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

กุนซือหนุ่มฉายา “เบบี้เฟซ” อย่างโซลชานับได้ว่าเป็นศิษย์ก้นกุฎิของเฟอร์กูสันอย่างแท้จริง ในสมัยที่เขาเป็นนักเตะของแมนฯยูไนเต็ด ได้สร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีซเอาไว้ให้กับทีม แต่การได้รับโอกาสคุมทีมขวัญใจมหาชนอย่างแมนฯยูฯนั้น คงนำผลงานเก่า ๆ มาช่วยอะไรเขาได้ไม่มากนัก โซลชาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมอดย่างมากในช่วงที่รับงานคุมทีมชั่วคราวเมื่อปลายฤดูกาลก่อน แต่เมื่อได้รับการแต่งตั้งถาวรผลงานของทีมก็เริ่มดิ่งลงจนพลาดการทำอันดับไปเล่นในแชมเปียนส์ลีกในที่สุด

การเสริมทัพที่ดีกับปัญหาที่ยังคงมีอยู่

ในฤดูกาลนี้แมนฯยูฯ เสริมทัพอย่างตรงจุด โดยการดึง 2 นักเตะทีมชาติอังกฤษอย่างแฮร์รี่ แม็คไกวร์ด้วยค่าตัวสถิติโลกของกองหลัง 80 ล้านปอนด์, อารอน วาน-บิสซาก้า แบ็คขวา 50 ล้านปอนด์ และแดเนี่ยล เจมส์ปีกจรวดทีมชาติเวลส์จากสวอนซี 15 ล้านปอนด์ ซึ่งทุกคนต่างทำผลงานได้ดีตั้งแต่เปิดฤดูกาล แต่นั่นยังไม่เพียงพอที่จะยกระดับของทีมกับแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ให้หมดไปได้ ไม่ว่าจะเรื่องข่าวการย้ายทีมของปอล ป็อกบานักเตะระดับโลกคนเดียวที่แมนยูมีในปัจจุบัน แนวรุกที่เต็มไปด้วยนักเตะอายุน้อยอย่างเจมส์, แรชฟอร์ด และมาร์กซิยาลที่ฟอร์มไม่ต่อเนื่อง สปิริตของทีมที่ไม่เหมือนก่อน นักเตะบางคนยังสนใจเล่นเพื่อตัวเองมากกว่าทีม บางคนเล่นเพื่อทีมแต่ฝีเท้ายังต้องพัฒนาอีกมาก คือปัญหาต่าง ๆ ที่โซลชาต้องเร่งแก้ไข

การเดิมพันมีผลต่อทั้งโซลชาและเหล่าแฟนบอล

ไม่เพียงแต่กับโซลชาเท่านั้นที่ต้องเดิมพันอนาคตของตนเอง แฟนบอลของทีมก็เช่นกัน เพราะแน่นอนว่าในต่างประเทศนั้น แฟนบอลไม่น้อยที่ชมเกมไปพร้อมกับการวางเดิมพันอย่างถูกกฎหมายด้วยทุกครั้ง ในขณะที่ฟอร์มทีมของตัวเองเป็นแบบนี้ ครั้นจะให้ไปวางเดิมพันตรงข้ามก็ดูจะไร้ศักดิ์ศรีมาก ซึ่งตรงนี้เองที่มีแฟนบอลไม่น้อยเลือกที่จะไม่วางเดิมพันเลยดีกว่า ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นงานหนักเหมือนกัน ที่โซลชาต้องเรียกศรัทธาทั้งหมดกลับมาให้ได้

เป้าหมายของบอร์ดบริหารและเวลาของโซลชา

แมนฯยูฯใช้เงินเสริมทัพไปแล้วราว 150 ล้านปอนด์ แต่พวกเขาก็ได้เงินจากการขายลูกากูกองหน้าคนเก่าของทีมมากถึง 75 ล้านปอนด์เช่นกัน และยังลดค่าใช้จ่ายบางส่วนจากการปล่อยยืมอเล็กซิส ซานเชซที่มีค่าเหนื่อยนสุดโหดอีกด้วย แมนฯยูฯจึงควรซื้อนักเตะอีกอย่างน้อย 2 ตำแหน่งให้กับทีม ตำแหน่งแรกที่ควรเสริมอย่างมากคือเพลย์เมคเกอร์ การดื้อใช้เจสซี่ ลินการ์ด นักเตะที่ไม่เคยมีส่วนร่วมในทุกประตูที่แมนฯยูฯยิงได้เลยกว่า 8 เดือนในตำแหน่งเบอร์ 10 คงถึงเวลาแล้วที่สโมสรระดับแมนยูต้องมีนักฟุตบอลที่ดีกว่านี้ กองหน้าคืออีกตำแหน่งที่ควรจะซื้อเพิ่ม เนื่องจากในปัจจุบันมีจำนวนน้อยเกินไป หลังจากดาวยิงทีมชาติเบลเยียมได้ย้ายออกไป หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากบอร์ดบริหารอย่างที่ควรจะเป็น ทีมของโซลชาก็คงลำบากที่จะพาทีมกลับไปเล่นแชมเปียนส์ลีกหรือลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกก็ตาม เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันใช้เวลาถึง 7 ปีในการพาทีมเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษสมัยแรก แต่สำหรับโซลชาแล้ว เวลาของเขาอาจมีเพียงฤดูกาลนี้เท่านั้น หรือบางทีเขาก็คือแพะของบอร์ดบริหารเหมือนกุนซือหลายคนที่ผ่านมา

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดปะทะลิเวอร์พูล ศึกวันแดงเดือดที่ดุเดือดแรงร้อนกว่านัดแรกแน่นอน

การพบกันของอริร่วมเกาะอังกฤษระหว่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกับลิเวอร์พูล ถูกยกให้เป็น Red War ที่เกาะอังกฤษ เนื่องจากทั้งสองทีมต่างมีฉายาว่า Red หรือสีแดงทั้งคู่ และเมื่อถูกแปลเป็นไทยด้วยคำเก๋ๆ ว่า “ศึกแดงเดือด” มันจึงระบุชัดเจนว่าเกมระหว่างสองทีมนี้พบกันครั้งใดต้องเตะกันอย่างถึงพริกถึงขิง

ทว่าหลายฤดูกาลแล้วที่เกมแดงเดือดไม่ได้เดือดอย่างที่แฟนบอลทั่วโลกตั้งตารอคอย ไม่ลิเวอร์พูลก็แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่หลุดจากสภาพทีมที่แข็งแกร่งไปก่อน โดยเฉพาะฤดูกาลนี้ที่เกมแดงเดือดนัดแรกที่แอนฟิลด์จบลงแบบสู้กันไม่ได้ทุกประการ

เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลมีต้นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยม พวกเขาไม่แพ้ใครอย่างยาวนานจนกระทั่งถึงนัดแดงเดือดที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดภายใต้การคุมทัพของโฆเซ่ มูริญโญ่ออกมาเยือน มีความคาดหวังถึงระดับความเดือดในเกมไว้เพียงระดับหนึ่ง  เพราะมันเป็นฤดูกาลที่ฝั่งยูไนเต็ดทำผลงานได้ไม่ดีเลย ทุกคนคาดหวังว่าอย่างน้อยในเกมที่เต็มไปด้วยศักดิ์ศรี มันควรจะมีอะไรสนุกขึ้นมาบ้าง ราคาต่อรองก่อนลงสนามเจ้าบ้านต่อ 1 ลูก ปรากฏเซียนทุกสำนักสั่งอยู่ข้างคล็อปป์หมด ผลปรากฏว่าในสนามนั้นลิเวอร์พูลเล่นได้ดีกว่าและเอาชนะได้ทุกแง่มุม จบนัดแรกของศึกแดงเดือดฤดูกาล 2018/2019 อย่างจืดชืด

ความเปลี่ยนแปลงในทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดช่วงเดือนธันวาคมกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อดีตนักเตะผู้ซื่อสัตย์ของทีมได้ก้าวมาคุมทีมชั่วคราว เขาเอาบางสิ่งที่เรียกว่าจิตวิญญาณของสโมสรกลับมา และนั่นทำให้ทีมออกสตาร์ทได้ด้วยชัยชนะในลีก 5 เกมติด และวิธีการเล่นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ไม่ใช่ว่าทีมปีศาจแดงเล่นดีขึ้น พวกเขากลับไปสู่การเล่นแบบที่ควรเป็นมากกว่า ปรัชญาเกมรุกถูกนำกลับมาใช้และมันได้ผล

ลิเวอร์พูลกลับกลายเป็นทีมที่ประสบปัญหา พวกเขากำลังเผชิญกับการที่แนวรับบาดเจ็บ ซึ่งเจอร์เก้น คล็อปป์มีบทเรียนมาแล้วจากฤดูกาลที่ผ่านมา เขาเสริมทัพได้ดี มีผู้เล่นทดแทนอย่างยอดเยี่ยม แต่ข่าวร้ายคือจำนวนของผู้เล่นในแนวรับที่มีอาการบาดเจ็บดันเพิ่มสูงกว่ากว่าที่เกิดขึ้นในฤดูกาลที่แล้ว และผู้เล่นที่มีอยู่ไม่พอหมุนเวียนลงสนาม นี่จึงเป็นสาเหตุให้หงส์แดงเปิดฉากปีใหม่ด้วยการพ่ายสองเกมติด โอกาสเป็นแชมป์ยังสูงแต่มันเปิดกว้างกว่าเก่า

สถานการณ์ขาขึ้นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับขาลงของลิเวอร์พูล ทำให้แฟนบอลมองไปถึงเกมแดงเดือดที่จะเกิดขึ้นช่วงปลายกุมภาพันธ์ในมุมมองใหม่ จากที่เคยคิดหลังจบเกมที่แอนฟิลด์ว่าลิเวอร์พูลคงเอาชนะได้อีกครั้งแบบไม่ยากอะไร กลายเป็นไม่แน่เสียแล้วหากโซลชายังพาลูกทีมเล่นได้ดีอย่างนี้ต่อไป เอาฟอร์มและความพร้อมปัจจุบันเป็นหลัก เกมนี้ออกฝั่งแมนเชสเตอร์ได้ล้างแค้นแน่นอน

ราคาต่อรองเกมแดงเดือดที่โอลด์ แทร็พฟอร์ดไม่เสมอก็ ป.ป. เรื่องจะแพงถึงหนึ่งลูกคงเป็นไปได้ยาก ใครออกราคาต่อมารีบรอง แนวโน้มออกเสมอสูงเพราะลิเวอร์พูลจถึงจะไม่สมบูรณ์ ต้องแค่เรื่องเล่นเอาหนึ่งแต้มไม่น่าพลาด เพราะอย่างน้อยหนึ่งแต้มก็ยังดีกว่าไม่ได้ แถมถ้าแพ้ขึ้นมากำลังใจที่สร้างมาเพื่อการลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดหนแรกในรอบเกือบ 30 ปีจะหายเอา ขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ต้องการล้างอายความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ และทำอันดับเพื่อกลับไปเล่นรายการถ้วยยุโรปอีกครั้งอาจจะผิดหวังเล็กน้อย

เกมนี้แฟนบอลน่าได้รับรู้ถึงอารมณ์ความระทึกใจแบบหนังคนละม้วนกับเกมนัดแรกอย่างสิ้นเชิง และสีสันของเกมที่ทุกคนตั้งตาคอย ก็น่าจะออกมาสมกับที่มันได้รับฉายาว่า “แดงเดือด” อีกครั้งเสียที

ว่าที่เจ็ดนัดติดของผีแดง เกมที่จะต่อประวัติศาสตร์ของโซลชา

ผู้คนทั่วโลกที่กลายมาเป็นแฟนบอลของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมักชื่นชอบในการเล่นเกมรุกที่ดุดัน รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งสิ่งนั้นเคยพาแมนเชสเตอร์ ยูในเต็ดครองความยิ่งใหญ่บนเกาะอังกฤษและยุโรป แต่มันหายไปพร้อมการมาของโฆเซ่ มูรินโญ่ อดีตผู้จัดการทีม จนกระทั่งเขาโดนปลด อดีตนักเตะของทีมก็เข้ามาทำหน้าที่แทนพร้อมกลับปรัชญาดั้งเดิมที่ถูกนำกลับมาใช้

โอเล่ กุนน่าร์ โซลชาสามารถเก็บชัยชนะได้ตั้งแต่นัดแรกที่คุมทีม โดยโซลชาพาทีมไปปลดล็อคหลังจากแพ้ลิเวอร์พูลและวาเลนเซียด้วยการชนะคาร์ดิฟฟ์ถึงบ้าน 1-5 แนวรุกสามารถทำประตูได้มากกว่าถึง 5 ลูกหลังจากครั้งสุดท้ายที่ทำได้ต้องย้อนกลับไปสมัยที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันยังคุมทีมด้วยซ้ำ แต่ทุกคนก็พูดว่านั่นเพราะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแข็งแกร่งกว่าคู่แข่งที่อยู่ในกลุ่มหนีตกชั้นมากอยู่แล้ว

ปีศาจแดงลงเล่นอีกสามเกมต่อมาด้วยการเอาชนะฮัดเดอร์ฟิลด์ 3-1, เอาชนะบอร์นมัธ 4-1 และเอาชนะนิวคาสเซิ่ลได้ 0-2 ทุกคนก็ยังคงมองว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยังไม่เจอทีมที่แข็งแกร่ง แต่ถึงตรงนี้แฟนบอลปีศาจแดงและสโมสรคู่แข่งรู้แล้วว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไปหลังการมาของโอเล่ กุนน่าร์ โซลชา

เกมเอฟเอคัพกับเร้ดดิ้งก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งเกมที่ชี้วัดความแข็งแกร่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไม่ได้ ทีมรองบ่อนจากลีก วันแทบจะไม่มีอะไรที่สามารถต่อกรกับทีมจากพรีเมียร์ลีกได้เลย และนั่นทำให้โซลชาสามารถสร้างสถิติชนะรวด 5 เกมนับตั้งแต่คุมทีม เทียบเท่ากับตำนานอย่างเซอร์แมตต์ บัสบี้ซึ่งทำเอาไว้ตั้งแต่นานมาแล้ว

โจทย์ใหญ่ของโซลชาที่จะเป็นตัวพิสูจน์เขาและลูกทีมคือเกมนัดที่ 6 ในการคุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีคิดไปเยือนสเปอร์ ทีมที่นัดแรกของการเจอกันบุกมาชนะพวกเขาราบคาบ 3-0

ทุกอย่างถูกสร้างขึ้นราวกับต้องการให้โซลชาได้เป็นตำนานบทใหม่ ทีมต้องเผชิญหน้ากับสโมสรที่ผู้จัดการทีมของพวกเขาเป็นเป้าหมายในการดึงมาคุมทัพฤดูกาลหน้า แต่การจบลงด้วยชัยชนะ 1-0 จากประตูของมาร์คัส แร็ชฟอร์ด และการป้องกันประตูที่สุดยอดของเดบิด เด เกอา ทำให้ประวัติศาสตร์ใหม่ในการเริ่มต้นงานคุมทีมของผู้จัดการสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปอยู่ที่ชัยชนะ 6 เกมรวด

แฟนบอลปีศาจแดงคงหวังว่าโซลชาจะสามารถทำสถิติใหม่ต่อไปได้อีก เพราะนัดหน้าพวกเขาจะได้เจอไบรท์ตัน แม้ว่าคู่แข่งจะเป็นทีมที่ขึ้นชื่อเรื่องความเหนียวแน่นแถมยังเอาชนะพวกเขามาก่อน หากล้างแค้นได้มันจะเป็นเกมที่ 7 ของโซลชา และหากมีเกมที่ 7 ก็อาจจะมีเกมที่ 8 หากสามารถเอาชนะอาร์เซน่อลได้ในรอบถัดไปของฟุตบอลเอฟเอ คัพ

พูดตามตรงว่าโอกาสเก็บทั้งไบรท์ตันและอาร์เซน่อลเป็นไปได้หมดสำหรับผีแดงตอนนี้ สองเกมข้างหน้า ถ้าราคาไม่แพง เชื่อใจโซลชา วางใจหนูเดฟ ลุ้นหนึ่งเม็ดจากหนูแร็ช ถือหางผีแดงไว้ไม่ผิดหวัง

เทพนิยายที่โซลชากำลังทำอยู่ตอนนี้อาจจะยืดยาวออกไปอีกเรื่อยๆ หากเทียบกับการที่เขาสามารถซื้อใจนักเตะให้กลับมาอยู่ในความกระหายชัยชนะได้เหมือนที่เป็นอยู่ตอนนี้ และบางทีมันอาจจะส่งผลให้เขาได้สัญญาฉบับใหม่ที่ไม่ใช่แค่การคุมทีมช่วยสโมสรที่รักเป็นการชั่วคราวไปจนสิ้นสุดฤดูกาลนี้เท่านั้น

 

เมื่อยูไนเต็ดกลับมาอันตราย เปแอสเชต้องไม่ประมาท

ฟอร์มการเล่นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในช่วงที่โฆเซ่ มูรินโญ่คุมนั้นบรรดาทีมยักษ์ใหญ่พากันลูบปากเป็นแถว เนื่องจากแมนยูไนเต็ดไม่ใช่ทีมที่อันตรายจนต้องกังวล แนวรุกพวกเขาทื่อ แนวรับก็เปราะ พวกเขาผ่านเข้ารอบด้วยผลงานที่ไม่น่ายำเกรงเลย แม้จะบุกไปชนะยูเวนตุสได้ถึงตูรินก็แทบจะเรียกได้ว่าฟลุกดีเป็นนัดๆ ไป

ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เต็ง 4 อุตส่าห์คิดว่าตัวเองได้งานสบายแล้วที่จับสลากมาเจอทีมฟอร์มตกแห่งเกาะอังกฤษ ที่ขนาดบ่อนเชื่อใจให้เป็นถึงเต็ง 11 ตอนนี้พวกเขาต้องคิดใหม่

โอเล่ กุนน่าร์ โซลชากลายเป็นกุนซือขัดตาทัพที่ทำผลงานได้ดี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกลับมาเป็นทีมที่น่ากลัวอีกครั้ง ปรัชญาเกมรุกที่ถูกนำกลับมาใช้ทำให้นักเตะทุกคนเทใจให้และแย่งกันสร้างผลงานอย่างโดดเด่น แนวคิดทำนองว่าถ้าถูกยิงประตูก็แค่ยิงให้มากกว่า และตราบที่เสียงนกหวีดยังไม่ดังเกมมันยังไม่จบได้ฉุดกระชากสโมสรที่เกือบหลับใหลในฤดูกาลนี้ให้เชิดหน้าขึ้น ตอนนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกลับมามีลุ้นทำอันดับมาแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้าแล้ว

เมื่อคู่แข่งฟื้นสภาพจากอาการป่วยกลับมาดีวันดีคืน กลายเป็นเปแอสเชเองที่ต้องจับตามองคู่แข่งรอบหน้าตาไม่กระพริบ เกมรุกของยอดทีมจากปารีสอาจจะน่ากลัว เนย์มาร์และคิลิยัน เอ็มบับเป้อาจจะมีฝีเท้าสุดยอด แต่คู่แข่งก็มีปอล ป็อกบาที่กำลังไปได้สวยกับการเล่นเกมรุก และสำคัญฟุตบอลในสนามเล่นฝั่งละ 11 คน ทีมที่ผู้เล่นช่วยกันเล่นช่วยกันไล่ทั้งทีมก็สามารถเอาชนะทีมที่มีผู้เล่นเก่งกว่าได้

ในเกมลีก เอิง พวกเขาสามารถที่จะวางใจกับตำแหน่งและคะแนนที่นำอันดับสองอยู่เกินสิบคะแนน แต่เกมรอบ น็อคเอ้าท์ของแชมเปี้ยนส์ลีกมันเป็นเกมสองนัดเหย้าเยือนที่ผิดพลาดไม่ได้ การต้องออกไปเยือนโอลด์ แทร็พฟอร์ดในวันที่คู่แข่งกลับมาแข็งแกร่งทั้งในและนอกสนาม พวกเขามีประสบการณ์แพ้ให้ทีมคู่แข่งและบรรยากาศสนามที่แอนฟิลด์มาแล้ว ซึ่งมันก็เป็นไปได้ที่จะเกิดซ้ำที่โอลด์ แทร็พฟอร์ด ดังนั้นพวกเขารู้ดีว่าไม่สามารถประมาทและคิดว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นทีมเดียวกันกับวันที่พวกเขาดีใจที่จับสลากเจออีกแล้ว

โธมัส ทูเคิ่ล ผู้จัดการทีมของเจ้าบุญทุ่มแห่งลีก เอิงต้องมานั่งทำการบ้านรับมือกับเกมรุกของคู่แข่งที่ตอนนี้ยกระดับอันตรายขึ้นทุกขณะ กองหน้าทีมจากอังกฤษมีความเร็วและความคล่องแคล่ว ว่องไวรวมถึงจบสกอร์ได้ดี งานของปารีส แซงต์ แชร์กแมงคือการคุมเกมให้อยู่หมัดจากคู่แข่งที่กำลังได้ใจ การจัดการกับปอล ป็อกบาให้ได้ก่อนที่กองกลางฝรั่งเศสจะแผลงฤทธิ์เป็นโจทย์ที่ยาก เพราะตอนนี้ความมั่นใจของป็อกบาทำให้เขาสามารถรังสรรค์ผลงานที่ยากจะคาดเดาได้ ไม่ต่างจากที่เนย์มาร์หรือเอ็มบับเป้ ผู้เล่นของพวกเขาสามารถทำ มันจึงกลายเป็นงานที่ยากมากขึ้น เมื่อคิดว่าถ้าเป็นพวกเขาเองที่เจอนักเตะอย่างเนย์มาร์หรือเอ็มบับเป้แล้วจะหยุดอย่างไร

ยังมีเวลาอีกเดือนกว่าก่อนที่จะเจอกัน โธมัส ทูเคิ่ล ผู้จัดการทีมเปแอสเชคงต้องจับตามองความเปลี่ยนแปลงของคู่แข่งแบบละสายตาไม่ได้ เขาต้องรีบคิดแผนเล่นงานคู่แข่งให้ออกและบอกลูกทีมว่าห้ามประมาทเด็ดขาด เพราะถึงใครจะบอกว่าเปแอสเชผ่านได้แน่ แต่วันที่แมนยูไนเต็ดไปเยือนยูเวนตุสแบบไม่น่าสู้ได้ ยังชนะม้าลายมาหน้าตาเฉย